🌻 ท่องเที่ยว อุซเบกิสถาน ไปดูสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์

ท่องเที่ยว อุซเบกิสถาน
ไปดูสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์

เมืองบูคารา ( Bukhara )
บูคารา เป็นเมืองมรดกโลกองค์ ซึ่งเป็น เมืองใหญ่บนเส้นทางสายไหมโบราณ มีประวัติศาสตร์เก่าแก่ยาวนานกว่า 2500 ปี
เป็นเมืองโอเอซิสท่ามกลางทะเลทราย เป็นจุดศูนย์กลางสำคัญทางการค้าและเป็นศูนย์กลางของศาสนาอิสลามในเอเชียกลาง
อาคาร้านเรือนยังคงมีสภาพสมบูรณ์ อนุสรณ์สถานที่น่าสนใจเป็นพิเศษ ได้แก่ สุสานฝังศพของอิสมาอิล ซามานี

Ark citadel มีสถาปัตยกรรมที่เป็นสัญลักษณ์อันสะท้อนให้เห็นถึงอำนาจอันยิ่งใหญ่ของเมืองแห่งนี้ รวมทั้งยังเป็นสิ่งก่อสร้าง ที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในบูคารา
ป้อมแห่งนี้สร้างมาตั้งแต่ช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 5 ตัวป้อมมีพื้นที่กว้างใหญ่ถึง 25 ไร่ ด้านในป้อมป้อมแห่งนี้ ประกอบไปด้วย ห้องบัลลังก์ กองตำรวจ คอกสัตว์ ห้องเก็บเครื่องแต่งกาย
ห้องพรม ห้องครัว ห้องสมบัติ ห้องพระคลัง คุก ห้องอัญมณี โรงกษาปณ์ มัสยิด ฯลฯ จนกระทั่งในปี ค.ศ.1920 ปราการอายุกว่าพันปีก็ถูกพวกกองทัพแดงทิ้งระเบิดจนพังพินาศไปเกือบทั้งหมด (ว่ากันว่าอลิมข่าน ผู้ปกครองคนสุดท้ายของนคร สั่งระเบิดป้อมแห่งนี้ด้วยตัวเอง เพื่อปกปิดสถานที่ลับๆ บางแห่ง อันรวมไปถึงฮาเร็มของพระองค์ด้วย)

Samanids Mausoleum สุสานซามานิด ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะนอกใจกลางเมือง ซึ่งเป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นเป็นพิเศษของเมืองบูคาราและ
เป็นสถาปัตยกรรมอิสลามที่เก่าแก่ที่สุดในเอเชียกลาง สร้างขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 9 เพื่อใช้เป็นที่ฝังพระศพของ อะหมัด อิบน์ อาซาด (Ahmad ibn Assad)
ผู้ซึ่งเป็นพระบิดาของอิสมาอิล ซามานิ (Ismail Samani) ผู้สถาปนาราชวงศ์ซามานิดส์

Chashma-Ayub Mausoleum สุสาน Chashma-Ayub ตั้งอยู่ใกล้กับสุสาน ซามานิ ใน บูคาร่า จากตำนานได้กล่าวไว้ว่าผู้เผย
วจนะของพระคัมภีร์ไบเบิ้ลได้มาเยือนดินแดน แห่งนี้เมื่อเห็นความลำบากของผู้คนที่ขาดแคลนน้ำ เขาจึงตัดสินใจช่วยเหลือผู้คนเหล่านั้น โดยการปักไม้ลงบนพื้นแล้วทำให้เกิดแหล่งน้ำขึ้น

เมืองคีว่า ( Khiva )
เมืองคีวา (Khiva) เมืองทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของอุซเบกิสถานที่ถูกเรียกขานว่า “เมืองพันโดม” (The City of a Thousand Domes)
ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 10 คีวาคือหนึ่งในเมืองหลักสำคัญบน เส้นทางสายไหม กองคาราวานแทบทั้งหมดต้องมาหยุดที่คีวาก่อนจะเข้าสู่เมืองจีนทั้งไปและกลับ
ว่ากันว่าตั้งแต่เปิดประตูเมืองเช้าจรดค่ำ มีขบวนอูฐและนักเดินทางผ่าน เข้าออกแบบไม่ขาดสาย ทำให้เมืองนี้มีความเจริญเป็นอันมาก
ต่อมาในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 16 ชาวอุซเบกได้เข้ามาตั้งรกรากในเมืองโคเรซม์ และตั้งอาณาจักรข่านคีฟขึ้นมา (Khive Khanate)

หอคอยคัลตามิโนร์ (Kalta Minor) หอคอยคัลตามิโนร์ ตั้งเด่นเป็นสีฟ้าตัดกับสีทรายของเมือง จึงทำให้หอคอยแห่งนี้ กลายเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมืองคีวา มีตำนาน
เล่าว่าผู้ปกครองของบุคาราได้จ้างให้สถาปนิกผู้ก่อสร้างหอคอยแห่งนี้ ไปสร้างหอคอยที่สูงกว่าเมื่อท่านมูฮัมหมัด อามินข่านทราบเรื่อง จึงต้องการประหารชีวิตสถาปนิกผู้นั้นเสีย แต่สถาปนิกคนนั้น ได้หลบหนีออกไปได้ และทิ้งให้หอคอยที่ยังสร้าง ไม่เสร็จเอาไว้ หลังจากที่ท่านมูฮัมเหม็ด อามินข่านถูกสังหารไป การก่อสร้างทั้งหมดก็หยุดลง เพียงเท่านี้ หอคอยจึงสร้างเสร็จไปเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น คือ สูง 29 เมตร (จากที่วางแผนเอาไว้ คือ 70 เมตร) ทำให้หอคอยแห่งนี้ถูกเรียกว่าคัลตามิโนร์ อันหมายถึงหอคอยเตี้ยนั่นเอง

Tosh Hovli Palace พระราชวังแห่งนี้ มีความหมายว่า “Stone House” สร้างขึ้นโดย Alloquli Khan ระหว่างปี ค.ศ. 1832-1841 ภายในมีการตกแต่งอย่างงดงามอลังการมาก
ประดับประดาไปด้วยกระเบื้องเคลือบ หินและไม้แกะสลัก แสดงให้เห็นถึงการก่อสร้างแบบดั้งเดิมในอาณาจักรคอริซึมที่มีลักษณะแข็งแรง มีลานกว้างที่เรียกว่า ‘Hovli’ พระราชวังนี้ใช้เวลาในการก่อสร้าง นานถึงเกือบ 9 ปี โดยใช้ทาสจากเปอร์เซียนับพันคน

อิทชานคาลา Ichon Qala อิทชานคาลา เป็น เมืองเก่ายังคงรักษาอนุสาวรีย์ทางประวัติศาสตร์กว่า 50 แห่งและบ้านเก่าแก่กว่า 250 แห่ง ตั้งแต่ศตวรรษที่สิบแปดหรือสิบเก้า
ลักษณะที่น่าสนใจที่สุดของ Ichan Kala คือผนังและป้อมปราการขนาดสูงใหญ่ที่ทำด้วยหินซึ่งมีความแข็งแรงมาก ถึงแม้ฐานรากจะถูกวางไว้ตั้งแต่ศตวรรษที่สิบ แต่จนกระทั่งตอนนี้ก็ยังคงตั้งอยู่ที่เดิม