ประเพณีชักพระ จังหวัดนครศรีธรรมราช

ประเพณีชักพระ เป็นประเพณีที่สืบต่อ ๆกันมา คาดว่าเกิดขึ้นครั้งแรกในประเทศอินเดีย ที่จะนิยมเอา เทวรูปออกมาแห่ในโอกาสต่าง ๆ ต่อมาจึงนำของเขากับความเชื่อทางพุทธศาสนาของเรามาผสมผสานกัน ประเพณีนี้มีตำนานเล่าว่าผนวชไปได้ 7 พรรษาแล้วในครั้งที่ 7 ทรงได้เสด็จไปจำพรรษา ณ สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เมื่อได้ออกมาอีกครั้ง ยามเช้าของแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ทรงได้เสด็จกลับมายังโลกมนุษย์ เมื่อมาถึงก็มีคนรอพระองค์กันอย่างมากมาย เมื่อทราบว่าพระพุทธเจ้าเสด็จกลับมา จึงได้นำภัตตาหารคาวหวานไปถวาย ผู้ที่พึ่งมาทีหลังและไม่สามารถเข้าไปถวายให้แก้พระองค์ได้ด้วยตัวเอง จึงต้องใช้ใบไม้ห่ออาหารและส่งผ่านคนต่อ ๆกันไป

ประเภทของชักพระหรือการลากพระในปัจจุบันที่ปฏิบัติกันจะมีอยู่ด้วยกัน 2 แบบ คือ อย่างแรก คือ ลากพระน้ำ เป็นการลากพระทางน้ำ หรือ เรียกอีกอย่างว่า “เรือพระ” โดยเอาเรือหลาย ๆ ลำมาผูกติดกันเป็นแพขนาดใหญ่แล้วอัญเชิญพระพุทธรูปปางอุ้มบาตรขึ้นมาบนบุษบก ต่อจะเป็นการแห่แหน มีการตีกลอน ระฆังไปตามแม่น้ำ ซึ่งการลากพระทางน้ำจะมีความสนุกสนานมากกว่าการลากพระทางบก เพราะ สภาพแวดล้อมที่สามารถทำกิจกรรมอื่น ๆได้ เช่น การแข่งพาเรือ การเล่นเพลงเรือ เป็นต้น ซึ่งจังหวัดที่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับประเพณีลากพระน้ำ ก็คือ จังหวัดนครศรีธรรมราชอยู่ในนั้นด้วย

ประเภทที่สอง คือ การลากพระบก หรือเรียกอีกอย่างว่า “รถพระ” สมัยก่อนจะใช้เป็นล้อเลื่อน ซึ่งจะต้องใช้คนจำนวนมากในการลากล้อเลื่อนนี้ และต้องมีเชือกลากช่วยลากจำนาน 2 เส้น เส้นแรกของผู้หญิง ส่วนอีกเชือกจะเป็นของผู้ชาย รถพระหรือเรือพระ คือล้อเลื่อนที่ตกแต่งให้เป็นรูปเรือแล้ววางบุษบก ซึ่งบุษบกนี้เรียกตามภาภาคใต้ว่า “นม” หรือ “นมพระ” ส่วนยอดบุษบก เรียกว่า “ยอดนม”

ประเพณีชักลากพระหรือชักพระ เป็นการแสดงออกถึงความสามัคคีพร้อมใจกันในการทำบุญครั้งนี้ มีความสำคัญอยู่มากมาย อย่างแรกเป็นการสืบทอดประเพณีมาจากบรรพบุรุษ ต่อมาเกิดความสนุกสนานกัน เพราะ ในประเพณีนี้จะมีการแต่งบทกรองสำหรับในการใช้การขับร้อง ส่วนมากจะเป็นบทกลอนสั้น ๆที่เป็นแนวตลกและมีโต้ตอบกัน ส่วนต่อไปเป็นความเชื่อที่ว่า การลากพระจะช่วยทำให้ฝนตกตามฤดูกาลและการทำบุญในครั้งนี้จะช่วยส่งผลให้ได้รับบุญกุศล ทำห้ประสบความสำเร็จในชีวิตอีกด้วย

สนใจทัวร์ นครศรีธรรมราช ติดต่อเราได้ที่นี่ …

Line : @tourddtooktook

โทร: 02-010-8840