สะพานชาร์ลส์ มนต์เสน่ห์แห่งกรุงปราก

สะพานชาร์ลส์ (Charles Bridge) เป็นสะพานที่อายุเก่าแก่มากในกรุงปราก โดยเริ่มสร้างตอนปี 1357 หลังจากที่สะพานจูดิธ ที่เป็นสะพานเก่า ถูกน้ำท่วมจนเสียหาย ใช้เวลาในการก่อสร้างครั้งนี้เกือบๆ 50 ปี เลยทีเดียว เดิมทีสะพานนี้ถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า สะพานหิน หรือ สะพานแห่งกรุงปราก ต่อมาในปี ค.ศ. 1870 จึงถูกเปลี่ยนชื่อเป็น “สะพานชาร์ลส์ (Charles Bridge)” อย่างที่หลายๆคนรู้จักกัน

สะพานชาร์ลส์ ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างเมืองเก่าและเมืองใหม่ของกรุงปราก ประเทศสาธารณรัฐเชค โดยมีตกแต่งด้วยรูปปั้นนักบุญของชาวเชคมากกว่า 20 รูป และ โคมไฟอีกหลายจุด ซึ่งรูปปั้นเหล่านี้มีประวัติอยู่มากมายหลายสิ่ง แต่จะมีอยู่รูปปั้น 1 รูป ที่จะมีคนต่อแถวกันขอพรอยู่เสมอ รูปปั้นนั้นคือรูปปั้นของเซนต์จอห์นแห่งเนโปมุก

รูปปั้นของเซนต์จอห์นแห่งเนโปมุก เป็นหนึ่งในสามสิบรูปปั้นบนสะพานชาร์ลส์ที่มีคนความสนใจและมีชื่อเสียงมากที่สุด ซึ่งหากเรานั้นยืนที่ต้นสะพานฝั่งเมืองใหม่แล้วหันหน้าเข้าทางเมืองเก่าของกรุงปราก ต่อไปก็เดินมาไม่กี่ก้าว เราก็จะได้พบรูปปั้นนี้อยู่ทางซ้ายมือเรา โดยมีความเชื่อว่า หากใครได้สัมผัสไม้กางเขนและดาวทั้งห้าด้วยมือซ้ายแล้วอธิษฐาน พรของเราจะเป็นจริงขึ้นมา

จากที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นทำให้ปัจจุบันนี้ สะพานชาร์ลส์ได้กลายเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวให้ความสำคัญมากเป็นอันดับต้น ๆเลย โดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนที่มีเวลากลางวันยาวนานกว่าปกติ ส่วนตอนกลางคืนก็สวยงามไม่แพ้กัน เมื่อท้องฟ้ามืดลง โคมฟ้าก็จะเปิดขึ้น ทำให้บรรยากาศมีความโรแมนติคมากขึ้นบวกกับไฟจากตัวเมืองที่อยู่ไกลๆ พอมองออกไปก็ได้วิวสวยในยามค่ำคืนได้เหมือนกัน