🌻 เที่ยว ซาลามังกา ประเทศสเปน (Salamanca) สะพานโรมันโบราณ บ้านเปลือกหอย

เที่ยว ซาลามังกา ประเทศสเปน (Salamanca) สะพานโรมันโบราณ บ้านเปลือกหอย

เที่ยว ซาลามังกา ประเทศสเปน (Salamanca) สะพานโรมันโบราณ บ้านเปลือกหอย ซาลามังกาเป็นเมืองหลักของทางภาคตะวันตกของประเทศสเปนตั้งอยู่บนที่ราบสูงริมแม่น้ำตอร์เมสซาลามังกาตั้งขึ้นก่อนสมัยโรมโบราณโดยชาวเคลติเบลเลียนเผ่าหนึ่งชื่อ วักไกอี (Vaccaei) โดยเป็นหนึ่งในสองป้อมปราการที่สร้างขึ้นเพื่อป้องกันดินแดนของพวกเขาใกล้แม่น้ำดวยโร ต่อมาในศตวรรษที่ 3 ก่อนคริสศักราช ชาวคาร์เทจซึ่งนำโดยฮันนิบาลได้เข้าจู่โจมและยึดครองเมืองนี้ จนคาร์เทจสูญเสียอำนาจในคาบสมุทรไอบีเรียให้กับสาธรรณรัฐโรมันเมืองนี้จึงเริ่มมีความสำคัญมากขึ้นในฐานะศูนย์กลางการค้า ในสมัยโรมัน ซาลามังกามีชื่อเรียกว่า “ซัลมันตีกา” (Salmantica)

เป็นเมืองที่ตั้งของมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดของสเปนและมหาวิทยาลัยเก่าแก่อันดับต้นๆ ของทวีปยุโรป นอกจากนั้นยังเป็นเมืองที่มีอาคารเก่ายุคเรเนซองส์ที่สวยมากที่สุดของยุโรปเมืองหนึ่ง เท่านั้นยังไม่พอ เมืองนี้ยังขึ้นชื่อว่ามีปราสาทเก่าแก่ที่อลังการมากที่สุดของสเปนอีกด้วย

1.วิหารเก่าซาลามังกา (Old Cathedral)

อาสนวิหารซาลามังกาหลังเก่าเป็นโบสถ์โรมาเนสก์ที่สวยสดงดงามสร้างอุทิศให้กับซานตามาเรียเดลาเซเด ซึ่งก่อสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 12 และ 13ตั้งอยู่ข้างๆ อาสนวิหารหลังใหม่ จุดเด่นของอาสนวิหารอีกอย่างคือตอร์เรเดลกาโย ซึ่งมีเครื่องชี้ทิศทางลมรูปไก่ตั้งอยู่ข้างบนอันเป็นที่มาของชื่ออาคาร เที่ยวชมหอคอยยุคกลางของอาสนวิหาร หอระฆังทรงโดมสูงนี้เคยเป็นที่ตั้งของห้องขัง

การเข้าอาสนวิหารหลังเก่าต้องเข้าทางอาสนวิหารหลังใหม่ เข้าไปข้างในเพื่อเยี่ยมชมคูหาสวดมนตร์ใหญ่ เพื่อชมฉากประดับแท่นบูชาสมัยศตวรรษที่ 15 ซี่งมีบานระบายสีที่แสดงภาพเหตุการณ์ในประวัติพระเยซู คูหาสวดมนตร์ยังมีหินจารึกหลุมศพของพระราชธิดาดอนย่ามาฟัลดาของพระเจ้าอัลฟอนโซที่ 8 และไปที่คูหาสวดมนตร์ซานมาร์ติน เพื่อชมภาพวาาดฝาผนังโกธิกและหลุมฝังศพของเหล่ามุขนายกในสมัยโบราณ นักศึกษาปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยสอบไล่ปากเปล่าในคูหาสวดมนตร์แห่งนี้ แล้วไปเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์เพื่อดูผลงานศิลปะล้ำค่าด้านในคุกใต้ดินและห้องขังของเรือนจำ หอโมชามีการจัดแสดงประวัติศาสตร์ 900 ปีของอาสนวิหาร ร่วมขึ้นหอคอยเพื่อชมวิวตัวเมือง360 องศา

2.วิหารใหม่ซาลามังกา (New Cathedral)

อาสนวิหารซาลามังกาหลังใหม่เป็นอาคารขนาดใหญ่ที่สุดและสูงที่สุดแห่งหนึ่งในเมือง โดยเป็นโบสถ์ขนาดใหญ่ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างมานานสองศตวรรษ โดยงานเริ่มต้นใน ค.ศ. 1513 และเสร็จสิ้นใน ค.ศ. 1733 โดยสร้างขึ้นข้างๆ อาสนวิหารหลังเก่า ซึ่งถือว่าเล็กเกินไปสำหรับประชากรที่กำลังเติบโตของซาลามังกา

เป็นลักษณะสถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างโกธิก เรอเนซองซ์และบาโรกมีภาพนูนที่แสดงภาพในแง่มุมต่างๆ ในประวัติของพระเยซู ทางเดินหลักกลางโบสถ์ มีงานประติมากรรมฝีมือประณีตที่ประดับหลุมฝังศพของคูหาสวดมนตร์ทองคำภาพวาดของพระแม่และพระเยซูกุมารและซานฮวนนิโตฝีมือลูอิส เด โมราเลส จิตรกรชาวสเปนสมัยศตวรรษที่ 16 มองหางานศิลปะเพิ่มเติมที่จัดแสดงในห้องเก็บเครื่องพิธีอาสนวิหารซาลามังกาหลังใหม่เปิดทุกวัน และราคาตั๋วรวมเครื่องบรรยายนำเที่ยวและค่าเข้าระเบียงโบสถ์และพิพิธภัณฑ์ของอาคาร มีราคาส่วนลดสำหรับเด็ก นักศึกษา และผู้สูงอายุ

3.สะพานโรมันโบราณ บ้านเปลือกหอย (House of Shells-La Casa de las Conchas)

สะพานโรมันเป็นสิ่งหนึ่งที่ยังเหลือรอดมาได้จากอดีตของซาลามังกาเมื่อครั้งเป็นที่ตั้งรกรากของชาวโรมัน โดยเป็นสะพานหินแกรนิตที่มีโครงสร้างโค้ง 26 จุดที่ทอดข้ามแม่น้ำตอร์เมส โครงสร้างโค้ง 15 จุดทางด้านตัวเมืองเป็นของเดิมจากโรมัน เป็นสัญลักษณ์ของเมืองซาลามังกาที่โดดเด่นจนถูกนำไปใส่ไว้ในตราประจำเมือง

ปัจจุบัน ผู้คนก็ยังคงใช้เส้นทางสายนี้เพื่อเดินทางเข้าไปในใจกลางย่านประวัติศาสตร์ของซาลามังกา วันที่ก่อสร้างสะพานเดิมไม่ปรากฏแน่ชัด แต่เชื่อว่ามีอายุเก่าแก่ถึงศตวรรษที่ 1 ทางเข้าสะพานทางด้านตัวเมืองมีวัวกระทิงแกะสลัก ซึ่งเชื่อว่ามีอายุย้อนกลับได้ถึงสมัยการมาถึงของชาวโรมัน ประติมากรรมชิ้นนี้ถูกกล่าวถึงในนวนิยายสั้นที่อื้อฉาวของสเปนเรื่อง The Life of Lazarillo de Tormes and his Fortunes and Adversities ซึ่งถูกตีพิมพ์โดยไม่เปิดเผยชื่อในศตวรรษที่ 16 ในเวลาต่อมา หนังสือเล่มนี้ถูกรวมอยู่ในบัญชีรายชื่อหนังสือต้องห้ามของการไต่สวนของสเปน