ไปแล้วไม่อยากกลับ 14 สถานที่สุดว้าวในเยอรมัน

เชื่อว่าเป็นประเทศอันดับต้นๆ ที่หลายท่านนึกถึง เมื่อจะเดินทางไปยุโรป เนื่องด้วยประเทศเยอรมันมีสถานที่ท่องเที่ยวที่นอกจากจะมีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ
และ ยังมีความสวยงามมากๆ จนหลายๆ สถานที่ในประเทศเยอรมันได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก

วันนี้ทาง We R World Tour ก็เลยมากระตุ้นต่อมนักเดินทางให้อยากเดินทางไปเยือนมากยิ่งขึ้น ด้วยการนำรูปสวยๆ ของ 14 สถานที่สุดว้าวในเยอรมัน มาฝากกันค่ะ

1. ปราสาทนอยชวานชไตน์ (Neuschwansten Castle)

สร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1845-86 ตั้งอยู่ในเทือกเขาแอลป์ มิวนิค ประเทศเยอรมนี เป็นปราสาทที่มีความงดงามมากที่สุดอีกแห่งหนึ่งของโลก เพราะสถาปัตยกรรมอลังการสุดๆ บรรยากาศทำให้จินตนาการว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิงในปราสาทที่อยู่ท่ามกลางเทือกเขาแอลป์ ปราสาทแห่งนี้เป็นต้นแบบปราสาทเจ้าหญิง เจ้าชายในนิยายหลายๆ เรื่อง และเป็นต้นแบบของการสร้างปราสาทในสวนสนุกดิสนีย์แลนด์อีกด้วย ไม่ว่าจะมาเที่ยวปราสาทนอยชวานชไตน์ในช่วงฤดูไหนๆ ก็สวย เป็นความสวยที่แตกต่างกันไป เรามีภาพมาฝากทุกฤดูเลยค่ะ อยากไปเที่ยวช่วงฤดูไหน เลือกเลย

2.พระราชวังเรสซิเดนซ์ (Residenz Munchen)

เป็นพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเยอรมัน อดีตเคยเป็นที่ประทับและทรงงานของกษัตริย์แห่งแคว้นบาเยิร์นมากว่า 500 ปี ปัจจุบันใช้เป็นที่เก็บสะสมงานทางศิลปะและเป็นคลังเก็บสมบัติ และให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมได้เมื่อปี 1920 ภายในยิ่งใหญ่และอลังการมากๆ มีห้องทั้งหมดกว่า 130 ห้อง แต่ละห้องแสดงถึงความสวยงาม ความหรูหราแตกต่างกันไป มีภาพวาดอันสวยงามที่แฝงวิถีชีวิตของชาวบาวาเรีย และยังมีสมบัติต่างๆ เช่น เฟอร์นิเจอร์ เครื่องเงิน และภาพเขียนต่างๆ ที่เกี่ยวกับประวิตศาสตร์ และห้องที่ไม่ควรพลาดชมเลย คือ Antiquarium Hall of Antiquities ห้องโถงสไตล์เรอเนสซองส์ที่มีความสวยงาม อลังการมากๆ

3.พระราชวังเรสซิเดนซ์ (Residenz Munchen)

ส่วนใหญ่มักเรียกกันว่าหมู่บ้านเทพนิยาย ตั้งอยู่บนถนนสายโรแมนติก (Romantic road) อยู่ทางตอนใต้ของประเทศเยอรมัน เมืองนี้เป็นเมืองโบราณตั้งแต่ยุคกลางแคว้นบาวาเรีย แต่ยังคงมีความสมบูรณ์อยู่ อาคารสถาปัตยกรรมแบบโกธิค และเรอเนสซองส์ บ้านเรือนถูกสร้างในรูปแบบเยอรมันขนานแท้ นักท่องเที่ยวนิยมขึ้นไปบนหอคอยสีงาช้างของอาคารศาลาว่าการเพื่อชมวิวรอบเมืองโรเทนบวร์ก

4.ปราสาทไฮเดลเบิร์ก (Heidelberg Castle)

ปราสาทไฮเดลเบิร์กสร้างจากหินทรายแดง ในแบบ Gothic Renaissance เคยเป็นที่พำนักของผู้ปกครองเมืองไฮเดลแบร์ก ด้านในมีถังไวน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ไว้เก็บภาษีไวน์ที่ได้มาจากชาวบ้าน สูงถึง 7 เมตร กว้าง 8 เมตร และเก็บไวน์ได้ถึง 220,000 ลิตร และมีพิพิธภัณฑ์เภสัชวิทยา ห้องจัดแสดงยาต่างๆ และมีการค้นพบยาแอสไพริน ยาลดไข้ ครั้งแรกของโลก ที่นี่เคยเสียหายจากการถูกฟ้าผ่า และถูกเผาทำลายเมื่อในสมัยสงคราม ถึงแม้จะเหลือแค่เพียงซากปรักหักพัง แต่ก็ยังคงความสวยงามอยู่

5.มหาวิหารเบอร์ลิน (Berliner Dom)

มหาวิหารเบอร์ลินมีความงดงามและโดดเด่น ภายนอกมีความงามแบบโบราณสถาน ด้านในมีความหรูหราและศักดิ์สิทธิ์ ด้านหน้าจะเป็นลานน้ำพุ นักท่องเที่ยวสามารถมานั่งพักผ่อน ชมความงามของวิหาร ด้านในบนฝาผนังมีภาพโมเสกมากกว่า 35 ภาพ และยังภาพแสดงเรื่องราวของพระเยซูเจ้า มีความวิจิตรงดงาม มีเก้าอี้ไม้สำหรับนั่งร่วมในพิธีทางศาสนาด้วย และสามารถขึ้นไปชมทิวทัศน์ได้ แต่ต้องเดินขึ้นบันได 270 ขั้น ขึ้นไปจะได้เห็นวิวในมุมกว้าง แม่น้ำ ตึกต่างๆ อันเป็นวิถีของกรุงเบอร์ลิน นอกจากนี้ยังมีชั้นใต้ดินของวิหาร เป็นสุสานของพระราชวงศ์บรานเดนบวร์กและปรัสเซีย หีบศพมากกว่า 94 หีบ ที่อยู่มานานกว่า 400 ปี

6.พิพิธภัณฑ์เพอร์กามอน (Pergamon Museum)

เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศเยอรมนี ตั้งอยู่ที่จุดศูนย์กลางของกรุงเบอร์ลิน บนแม่น้ำสปรี ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมของยูเนสโกเมื่อปี 1999 ภายในมีการจัดแสดงสถาปัตยกรรมแบบกรีก-โรมัน ศิลปะแบบอิสลามจากตะวันออกกลาง อิหร่าน จอร์แดน เปอร์เซีย รวมไปถึงของโบราณจากซีเรีย เมโสโปเตเมีย อัสซีเรีย เป็นต้น

7.ปราสาทซวิงเกอร์ (Zwinger Palace)

ในอดีตเคยเป็นพระราชวังฤดูร้อนของเจ้าผู้ครองนคร ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเอลเบอ สร้างในสถาปัตยกรรมแบบบาโร้ก ที่มีอาคารหลักอยู่หนึ่งหลังที่ล้อมรอบไปด้วยซุ้มประตูจำนวนสามซุ้ม โดยที่แต่ละซุ้มจะมีทางเดินลอยฟ้าเชื่อมต่อถึงกัน มีสวนลอยที่มีน้ำพุและต้นไม้ประดับอย่างร่มรื่น

8.พิพิธภัณฑ์เมอร์เซเดสเบนซ์ (The Mercedes-Benz Musuem)

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ถือเป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของประเทศเยอรมัน เนื่องจากรถยนต์คันแรกของโลกถูกคิดค้นและผลิตขึ้นที่นี่โดย Karl Benz เมื่อปี ค.ศ. 1886 ถือว่าเป็นสถานที่บันทึกประวัติศาสตร์นวัตกรรมยานยนต์ของมนุษยชาติเลยทีเดียว Mercedes-Benz ใช้เงินทุนสูงถึงกว่า 6 พันล้านบาท เพื่อสร้างอาคาร 9 ชั้น บนพื้นที่กว่า 16,500 ตร.ม. เพื่อจัดแสดงชิ้นงานกว่า 1,500 ชิ้น และรถยนต์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์กว่า 160 คัน โดยออกแบบอย่างทันสมัยล้ำยุค

9.เขตชุมชนชาวประมง (Fishermen’s Quarter)

เขตชุมชนชาวประมงมีความเก่าแก่ สวยงาม และร่มรื่น ตั้งอยู่ริมชายฝั่งแม่น้ำดานูบที่อยู่ทางใต้ของประเทศ และประวัติศาสตร์ที่ยาวนานมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 850 ทำให้ที่นี่กลายเป็นเมืองแห่งศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่สำคัญอีกเมืองของประเทศ

10. วิหารอูล์ม (Ulm Munster)

วิหารอูล์ม แหล่งท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของเมืองอูล์ม สร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 วิหารแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นโบสถ์ที่สูงสุดในโลก ด้วยความสูง 161.53 เมตร แม้วิหารนี้จะตั้งอยู่นอกกำแพงเมือง ก็ยังคงเห็นวิหารนี้ตั้งเด่นเป็นสง่าอย่างชัดเจน

11.โบสถ์เฟราเอน (Frauenkirche)

โบสถ์เฟราเอน หรือโบสถ์แม่พระ สร้างขึ้นในสถาปัตยกรรมแบบโกธิค โบสถ์แห่งนี้ใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึงสิบปี ไฮไลท์ของที่นี่คือบริเวณยอดแหลมของโบสถ์ที่เป็นหอนาฬิกานั่น ความพิเศษของนาฬิกานี้คือ เมื่อเวลาเที่ยงตรงปุ๊บ จะมีตุ๊กตาออกมาเต้นระบำ นอกจากนั้นก็ยังมีหุ่นจักรพรรดิ และบริวารมาเล่นดนตรีขับกล่อมอยู่ข้างๆ อีกด้วย

12.เกาะรือเกิน (Rugen)

เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของเยอรมัน อยู่ทางทิศเหนือของทะเลบอลติก สามารถเดินเล่นตามแนวหาดทรายสวยๆ ชมวิวทะเล และท้องฟ้าสีคราม และบนเกาะยังเป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติยัสมุนท์ (Jasmund National Park) ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก จึงมีแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่สวยงามและโดดเดนฃ่น ไม่ว่าจะเป็นหน้าผาหินปูนหรือหินชอล์ก การเดินชมยอดไม้ท่ามกลางป่าบีชบนทางยาว 1,250 เมตร และยังสามารถชมวิวได้ที่จุดชมวิวบริเวณผาเก้าอี้พระราชาที่ใครๆ ก็เอ่ยปากว่าสวย ควรค่าแก่การไปเยือน

13.เคลสไตน์เฮาส์ (Kehlsteinhaus)

เคลสไตน์เฮาส์ หรือ รังอินทรี (Eagle’s Nest) ตั้งอยู่บนยอดเขาสูงของเคลสไตน์ ในรัฐบาวาเรีย อดีตเคยเป็นบ้านพักต่างอากาศและศูนย์บัญชาการของฮิตเลอร์ มี่โดดเด่นคือทำเลที่ตั้งที่สูงและสวย สามารถมองเห็นวิวทิเทือกเขาได้อย่างอลังการ จึงเป็นสถานที่ที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาเยือนเมืองนี้

14.อาสนวิหารโคโลญ (Cologne Cathedral)

เป็นวิหารที่ใช้เวลาในการสร้างนานที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ของโลก เพราะเริ่มสร้างเมื่อปี ค.ศ.1248 สร้างเสร็จสมบูรณ์เมื่อปี ค.ศ.1880 รวมๆ แล้วก็เป็นเวลากว่า 600 ปีได้ รูปแบบสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิก ไฮไลท์ของที่นี่คือหอคอยแฝดที่มีความสูงมาก สามารถมองเห็นเด่นสง่ามาแต่ไกล ที่นี่ยังได้รับอันดับ 4 ของวิหารที่สูงที่สุดในสถาปัตยกรรมโกธิก และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกด้วย