10 หมู่เกาะอิตาลีที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุด

 

10 หมู่เกาะ อิตาลี ที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุด

ประเทศ อิตาลี (Italy) เป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในยุโรปตอนใต้ เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของโลกด้วยเหตุผลหลายประการ ทั้งทิวทัศน์ที่สวยงาม อิตาลีเป็นประเทศที่มีหมู่เกาะมากมาย วันนี้เราจะพาไปชม หมู่เกาะที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุด

 

 

10.เกาะโพรชิดา (Procida)

เป็นเกาะที่มีขนาดเล็กและได้รับความนิยมมากที่สุดในอ่าวเนเปิลส์ ถึงแม้ว่าที่นี่จะไม่ได้มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายเหมือนเกาะคาปรีหรือเกาะอิเชีย แต่ก็ยังมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวชมอย่างไม่ขาดสาย เกาะแห่งนี้ถือเป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับการมาพักผ่อนชมบรรยากาศริมทะเล เพราะมีชายหาด Church of San Michele ที่สามารถลงเล่นน้ำหรืออาบแดดได้ อีกทั้งภายในเกาะยังมีเมืองที่น่าสนใจและท่าเรือหลักอย่าง Marina Grande และ Chiaiolella รวมถึงมีที่พักและร้านอาหารให้บริการอยู่มากมาย โดยอาหารขึ้นชื่อของที่นี่ส่วนมากจะทำมาจากปลาสดหรือกระต่าย

 

 

9.เกาะ Panarea

เกาะ Panarea ตั้งอยู่ทางเหนือของเกาะซิซิลี เป็นเกาะที่เล็กที่สุดในหมู่เกาะเอโอเลียน มีประชากรเพียง 200 กว่าคนเท่านั้น ถือเป็นเกาะยอดฮิตที่เหล่าคนดังมากมายจากทั่วโลกนิยมมาเที่ยว ปัจจุบันเกาะแห่งนี้ยังไม่ได้รับการพัฒนาสักเท่าไหร่ ภายในเกาะจึงมีโรงแรมเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้น ด้วยเหตุผลนี้เองทำให้เป็นเกาะที่ค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัว ผู้คนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวส่วนมากมักจะใช้รถกอล์ฟ หรือจักรยานไฟฟ้าสำหรับการเดินทางภายในเกาะ และราคาอาหารก็จะค่อนข้างมีราคาที่สูงเพราะส่วนใหญ่เป็นอาหารนำเข้า

 

 

8.เกาะอีสเคีย (Ischia)

ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันตกของอิตาลี เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดของอ่าวเนเปิลส์ พื้นที่บริเวณเกาะแห่งนี้ส่วนมากจะเป็นภูเขา หาดทราย และบ่อน้ำพุร้อนแบบธรรมชาติ ทำให้ที่นี่กลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม สำหรับการพักผ่อนในช่วงสุดสัปดาห์ นอกจากธรรมชาติแล้วที่นี่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวหลักที่น่าสนใจมากมาย เช่น Giardini Ravino สวนพฤกษศาสตร์ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของกระบองเพชร, ปราสาท Aragonese และป้อมปราการ Guervera ที่ถูกสร้างตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 15 จนกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของเกาะในปัจจุบัน

 

 

7.เกาะลา มัดดาเลนา (La Maddalena)

เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะมัดดาเลนา ตั้งอยู่นอกชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะซาร์ดิเนีย เชื่อมต่อกับเกาะ Caprera สามารถเดินทางเข้ามายังเกาะแห่งนี้ได้ โดยเรือข้ามฟากที่วิ่งจากซาร์ดิเนีย โดยจุดเด่นของเกาะนี้คือหินแกรนิตสีชมพู ซึ่งหินบางส่วนถูกนำไปใช้สร้างเทพีเสรีภาพ จะเห็นได้ว่ามีการเรืองแสงเมื่อพระอาทิตย์ตกดิน อีกทั้งเมืองแห่งนี้ยังขึ้นชื่อในเรื่องของสถานบันเทิงยามค่ำคืนอีกด้วย

 

 

6.เกาะแลมเพดูซ่า (Lampedusa)

เป็นที่ตั้งของหนึ่งในหาดที่สวยที่สุดในโลกอย่างชายหาดแรบบิท และชายหาดรูปหัวใจ สามารถเดินทางเข้าไปเที่ยวชมได้ โดยการเดินเท้าลุยน้ำตื้นเข้าไป ซึ่งเกาะแห่งนี้ถือเป็นเกาะที่ได้รับการคุ้มครอง เพราะเป็นเขตที่เต่าทะเลหัวตัดสามารถวางไข่ได้อย่างปลอดภัย ถือเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการนั่งเรือเที่ยวชม และการดำน้ำ ซึ่งจุดดำน้ำยอดฮิตจะอยู่ที่บริเวณรูปปั้น Madonna del Mare ที่จมอยู่ใต้น้ำ อีกทั้งบริเวณนี้ยังสามารถพบปลาหมึกยักษ์และปลาซาร์โกอีกด้วย

 

 

5.เกาะ Lipari

เกาะ Lipari ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะซิซิลี เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาเกาะภูเขาไฟทั้งเจ็ด ในอดีตเคยโด่งดังในเรื่องของภูเขาไฟสีดำ ปัจจุบันภายในเกาะได้มีกิจกรรมยอดฮิตมากมายให้เลือกทำตั้งแต่ การดำน้ำ การพายเรือ และการเดินป่า นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ให้เที่ยวชมอีกด้วย เช่น พิพิธภัณฑ์โบราณคดีเอโอเลียน มีคอลเล็กชันผลงานโบราณวัตถุที่น่าสนใจมากมายให้ได้ชม ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเลยหล่ะค่ะ

 

 

4.เกาะเอลบา (Elba)

เป็นเกาะในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะทัสกัน ตั้งอยู่นอกชายฝั่งตะวันตกของ อิตาลี เป็นที่รู้จักกันในสถานที่ลี้ภัยของนโปเลียน เกาะแห่งนี้มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามของอิตาลี และมีชายหาดมากกว่า 150 แห่งทอดยาวไปสุดลูกหูลูกตา โดยชายหาดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ หาด Procchio ที่ผิวทรายจะมีความละเอียดมากกว่าหาดอื่น ๆ และน้ำทะเลมีสีฟ้าครามสดใส นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมยอดฮิตอย่างการเดินป่า ซึ่งมีความพิเศษตรงที่บริเวณเส้นทางเดินป่านั้น คุณจะพบกับกับอัญมณีควอตซ์ และคริสตัล

 

 

3.เกาะคาปรี (Capri)

เป็นเกาะเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ในอ่าวเนเปิลส์ เต็มไปด้วยเสน่ห์ของประวัติศาสตร์ ในอดีตเคยถูกใช้เป็นสถานที่ตากอากาศของชนชั้นสูงมาตั้งแต่สมัยโรมัน จนกระทั่งมีการส่งต่อการปกครองมาหลายยุคหลายสมัย โดยแหล่งท่องเที่ยวที่โด่งดังมากที่สุดของคาปรีคือ ถ้ำบลู กร็อตโต ซึ่งเป็นถ้ำริมน้ำที่สะท้อนแสงได้ในความมืด ทำให้น้ำกลายเป็นสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ รวมถึงกิจกรรมการนั่งกระเช้าไฟฟ้าขึ้นไปยังยอดเขา Monte Solaro ก็เป็นหนึ่งในกิจกรรมยอดฮิตเช่นกัน

 

 

2.เกาะซาร์ดิเนีย (Sardinia)

เป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของ อิตาลี ตั้งอยู่กลางทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เป็นที่ตั้งของอารยธรรมโบราณที่สืบทอดต่อกันมาหลายศตวรรษ มีร่องรอยทางประวัติศาสตร์ที่ยังหลงเหลืออยู่มากมาย ตั้งแต่โครงสร้างหินที่ที่มีอายุกว่า 3,000 ปี ไปจนถึงปราสาทเก่าแก่ และโบสถ์ยุคกลาง ถือเป็นสถานที่ที่เหมาะกับคนรักประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม และวัฒนธรรม นอกจากนี้เกาะซาร์ดิเนียยังขึ้นชื่อในเรื่องของชายหาดที่ใสสะอาดอีกด้วย และกิจกรรมยอดฮิตของที่นี่มีตั้งแต่การเดินป่า ปีนเขา ไปจนถึงการตั้งแคมป์ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายมาพักผ่อน เกาะแห่งนี้ถือว่าตอบโจทย์เป็นอย่างมาก

 

 

1.เกาะซิซิลี (Sicily)

เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และตั้งอยู่ในเขตปกครองตนเองของ อิตาลี ซึ่งมีหมู่เกาะต่างๆ มากมาย สามารถเดินทางมายังเกาะแห่งนี้ได้โดยเรือ เครื่องบินไฮโดรฟอยล์ หรือเรือข้ามฟาก จุดไฮไลท์ที่น่าสนใจของที่นี่ต้องยกให้ภูเขาไฟเอ็ตนา ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ยังไม่ดับและมีความสูงที่สุดในยุโรป รวมถึงชายหาดที่มีความร่มรื่นเหมาะแก่การมาพักผ่อน ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดในการมาเยือนซิซิลีเลยหล่ะค่ะ

 

Line : @tourddtooktook

☎โทร: 02-010-8840

สายด่วน: 091-739-6939 พี่หวิน // สายด่วน: 090-894-3331

เว็บไซต์:  https://www.we-rworldtour.com/

Facebook:  https://www.facebook.com/werworldtour/

❤️🧡💛💚💙💜🖤❤️🧡💛💚💙💜🖤❤️🧡💛💚💙💜🖤❤️🧡💛💚💙💜🖤❤️🧡💛💚💙💜

ขอขอบคุณรูปภาพสวยๆ จาก : shutterstock