5 อันดับ ออนเซ็นลับ ในญี่ปุ่น

 

5 อันดับ ออนเซ็นลับ ในญี่ปุ่น

นึกถึงออนเซ็น ก็ต้องคิดถึงแดนปลาดิบ วันนี้เราจะพาทุกไปรู้จักกับ 5 อันดับ ออนเซ็นลับ ในญี่ปุ่นไปกันเลยค่าา~~

 

5. Nyuto Onsen – อะกิตะ (Akita)

 

ที่เมืองอะกิตะ มีออนเซ็นที่มีชื่อเสียงอยู่หลายแห่งมากมาย Tsuru-no-yu เป็นออนเซ็นของ Nyuto Onsen
ที่เป็นหนึ่งในออนเซ็นที่คลาสสิคที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น และเป็นที่รู้จักของคนในพื้นที่ตั้งอยู่ห่างจากภูเขาไฟ
Komagatake เพียง 13 กิโลเมตร มีประวัติย้อนไปในช่วง ปี 1600 เหล่าขุนนางในเมืองจะพากันมาอาบน้ำที่นี่
เพื่อบำบัดโรค  
ที่นี่มีเฉพาะออนเซ็น แบบแยกชาย – หญิง เท่านั้น แต่คุณสามารถลองอาบแบบรวม (แบบ
konyoku)ที่ Rotenburoได้เช่นกัน
สิ่งที่ไม่ควรพลาด – บริเวณโดยรอบมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่ง นั่นคือทะเลสาบทาซาวาโกะทะเลสาบที่
ลึกที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งมีสีเขียวอมฟ้าตลอดทั้งปี และ มีฉากหลังเป็นภูเขา
การเดินทาง: คุณสามารถนั่งรถไฟความเร็วสูงของเมืองอะกิตะ มาลงที่สถานี Tazawakoลงที่ป้ายรถเมล์
Arupa Komakusa จากนั้น Tsuru-no-yu จะส่งรถบัสมารับฟรี โดยสามารถติดต่อได้ที่เบอร์ 0187-46-2139

 

4.Tamagawa Onsen – อะกิตะ (Akita)

 

Tamagawa Onsen ขึ้นชื่อว่าเป็นออนเซ็นที่มีกำมะถันมากที่สุดในญี่ปุ่น ที่มาพร้อมกับวิวธรรมชาติสุดฟิน
ที่จะทำให้คุณไม่มีวันลืม น้ำพุร้อนแห่งนี้ มาจากภูเขาไฟ Yake-Yama ที่ยังคงปะทุอยู่ที่ร้านค้าในพื้นที่
คุณสามารถซื้อผ้าขนหนู
และเสื่อพรม เพื่อไป “นอนอาบหิน (Bedrock Bathing)” ได้ แต่ต้องติดตาม
สัญญาณเตือนของสภาพอากาศด้วย ที่สำคัญ อย่าลืมพกไข่ขึ้นไปต้มไข่ออนเซ็นด้วย ออนเซ็นแห่งนี้
ขึ้นชื่อในด้าน การช่วยรักษา ระบบภูมิคุ้มกันระบบประสาท และอื่น ๆอีกมากมาย
สิ่งที่ไม่ควรพลาด – ที่นี่มีบริการให้คำปรึกษาในด้านการแพทย์ฟรี และนอกจากนี้ คุณยังสามารถกระโดด
น้ำพุร้อนที่นี่ได้ด้วย แต่ควรแช่อย่างน้อย 10 นาทีเพราะว่ามันร้อนมาก ๆ

การเดินทาง: คุณสามารถขึ้นรถจากสถานี Tazawako ไปยัง Tamagawa Onsenได้เลยแต่จะต้องตรวจสอบ
ตารางการเดินรถในแต่ละวันด้วย เพราะแต่ละฤดูมีเส้นทางการวิ่งที่ไม่เหมือนกัน

 

3.Sukayu Onsen – อาโอโมริ (Aomori)

 

เป็นออนเซ็นที่ชาวญี่ปุ่นรู้จักกันดี ตามนิตยสาร และ โทรทัศน์ แต่น้อยคนนักที่จะเคยมาเยือนที่แห่งนี้เพราะตั้ง
อยู่บนเทือกเขา Hakkoda ที่ห่างไกลและมีหิมะปกคลุมหนาตั้งแต่เดือน ธันวาคม จนถึงเดือนกุมภาพันธ์
ออนเซ็น
แห่งนี้ มีขนาดที่ใหญ่มาก ถ้าเทียบกับจำนวนผู้ใช้บริการ เพราะสามารถจุคนกว่า 1,000 คนได้สบาย ๆ แต่มีลูกค้า
เพียง 150 คน (โดยเฉลี่ย) เท่านั้นในแต่ละวัน
Sukayu Onsen เป็นออนเซ็นที่มีเวลาให้บริการสำหรับชาย – หญิง
อย่างชัดเจน น้ำพุในที่แห่งนี้มีส่วนผสมของ กรดซัลเฟต ที่ช่วยรักษาโรครูมาตอยด์ และโรคไขข้อต่าง ๆ
สิ่งที่ไม่ควรพลาด – หากการเดินทางเป็นเวลานาน ๆ ทำให้คุณหิว ที่นี่มีเมนูเด็ดให้คุณได้ลิ้มลอง คือ Sukayu Soba
และ โอเด้งมิโซะแสนอร่อยและมีปรากฏการณ์ Snow Monsters (หิมะปกคลุมต้นไม้เป็นรูปร่างแปลกๆ) และชมวิว
ทะเลสาบ Jigokunuma ที่มีสีฟ้าครามสดใส (แต่ไม่อนุญาตให้ลงเล่นเพราะอันตราย)
การเดินทาง: คุณสามารถนั่งรถไฟความเร็วสูงไปยัง JR Shin-Aomori และต่อรถบัสอีก 80 นาที ลงที่ป้าย Sukayu Onsen Mae

 

2.Shirahone Onsen – นากาโน่ (Nagano)

 

ลึกเข้าไปยังบริเวณเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น Shirahone Onsen คือสปาลับ ที่ซ่อนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติในหุบเขาที่งดงาม
และ วิวของแม่น้ำยูกาวะ Shirahone มีความหมายว่า “กระดูกสีขาว” ในภาษาญี่ปุ่น เพราะเป็นออนเซ็นสีครีม ที่อุดมไปด้วย
แคลเซียม และ แมกนีเซียม คุณสามารถดื่มได้ในปริมาณที่ไม่มากจนเกินไปในน้ำมีสรรพคุณที่ช่วยเรื่องระบบทางเดินอาหาร
ส่วนเวลาในการอาบน้ำจะมีแค่อาบน้ำแบบรวมเท่านั้น
สิ่งที่ไม่ควรพลาด – หากอาบออนเซ็นเสร็จแล้วไม่รู้จะไปทำอะไรต่อ ที่ชิราโฮเน่ ก็มีกิจกรรมกลางแจ้งมากมาย เช่น ลานสกี
ที่ Norikura Highlands เดินป่าที่ Kamikochi  หรือ เที่ยวปราสาทมัตสึโมโตะเป็นต้น
การเดินทาง: คุณสามารถนั่งรถไฟความเร็วสูงจาก Nagano และต่อรถบัสอีก 80 นาทีไปยังสถานีมัตสึโมโตะ จากนั้นนั่งรถบัส
จากสถานี Matsumoto ประมาณ 90 นาที เพื่อมายัง Shirahone

 

1. Takamine Onsen – นากาโน่ (Nagano)

 

หลบหลีกความวุ่นวาย แล้วมาออนเซ็นเหนือเมฆกัน ที่นี่คือออนเซ็นบนภูเขาที่มีความสูงกว่า 2,000 เมตร
เหนือที่ราบสูงทาคามิเนะ ในช่วงฤดูหนาวจนถึงช่วงฤดูใบไม้ผลิ ที่นี่จะสวยงามมาก และเต็มไปด้วยดอกไม้
ป่าที่กำลังเปลี่ยนสีมากมาย หากคุณมาเที่ยวที่นากาโน่ แล้วอยากได้ที่เที่ยวที่คนไม่พลุกพล่านที่นี่คือคำตอบ
ของคุณเลยล่ะ
สิ่งที่ไม่ควรพลาด – คุณสามารถเล่นสกี และเดินป่าไปตามเทือกเขา Asama ได้ตั้งแต่ช่วงฤดูใบไม้ผลิ จนถึง
ใบไม้ร่วง และดูดาวผ่านกล้องดูดาวได้ทุกคืน
การเดินทาง: คุณสามารถนั่งรถไฟความเร็วสูงไปยังสถานี Sakudaira จากนั้นขึ้นรถบัส JR Kantoประมาณ 40 นาที

 

เป็นยังไงกันบ้างคะ น่าไปมากๆเลยใช่มั้ยคะ หากใครที่กำลังจะไปเที่ยวญี่ปุ่นอย่าลืมหาโอกาส
ไปลองแช่ออนเซนด้วยตัวเองสักครั้งโดยเฉพาะช่วงอากาศหนาวนะคะ บอกเลยว่าคุณจะหลงรักแดนปลาดิบแห่งนี้ 

 

Line : @tourddtooktook

☎ โทร: 02-010-8840

สายด่วน: 091-739-6939 พี่หวิน // สายด่วน: 090-894-3331

เว็บไซต์:  https://www.we-rworldtour.com/

Facebook:  https://www.facebook.com/werworldtour/

❤️🧡💛💚💙💜🖤❤️🧡💛💚💙💜🖤❤️🧡💛💚💙💜🖤❤️🧡💛💚💙💜🖤❤️🧡💛💚💙💜
ขอขอบคุณรูปภาพสวยๆ จาก : shutterstock