10 ที่เที่ยวในอลาสกาที่เหล่าคนรักธรรมชาติห้ามพลาด
10 ที่เที่ยวในอลาสกาที่เหล่าคนรักธรรมชาติห้ามพลาด
วันนี้พวกเราบริษัท We R World Tour ขอเสนอสถานที่เที่ยวในอลาสกาที่เหล่าคนรักธรรมชาติ
ห้ามพลาดบรรยากาศสุดแสนธรรมชาติ จะมีที่ไหนบ้างนั้นไปดูกันเลยยยย
1.อุทยานแห่งชาติเดนาลี (Denali National Park)
อุทยานแห่งชาติเดนาลี เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตในอลาสกา ซึ่งมีทัศนียภาพ
เป็นภูเขาลูกใหญ่ที่สวยงามอย่าง ภูเขาแมกคินลีย์ ซึ่งเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศ และ
อุทยานแห่งชาติเดนาลียังเป็นสถานที่ที่ได้รับการคุ้มครองสัตว์ป่า จึงทำให้สามารถพบเจอ
สัตว์ป่าในบริเวณอุทยานอย่างมากมาย กิจกรรมยอดนิยมสำหรับการมาเที่ยวที่นี่คือการ
เดินป่าเพื่อสำรวจธรรมชาติ ล่องแก่ง และการตั้งแคมป์ ภายในอุทยานแห่งนี้ยังมีการจัด
นิทรรศการเพื่อให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย
2. Katmai National Park
อุทยานแห่งชาติ Katmai ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอลาสกา อีกทั้งยังตั้งอยู่ใกล้กับ
Ten Thousand Smokes ที่เป็นซากของเถ้าถ่านที่ยังคงหลงเหลืออยู่หลังจากการระเบิด
ของภูเขาไฟในปี 1912 นอกจากนี้คุณยังสามารถพบเห็นสัตว์ป่าอย่างเจ้าหมีสีน้ำตาลในเขต
อุทยานได้อย่างใกล้ชิดอีกด้วย และงานอดิเรกของผู้คนท้องถิ่นที่นี่คือการตกปลา ที่เรามักจะ
พบเห็นได้ทั่วไปในพื้นที่บริเวณนี้เพราะว่าปลาแซลมอนและปลาเรนโบว์เทราต์มีจำนวนที่เยอะมาก
3. Kenai Fjords National Park
อุทยานแห่งชาติ Kenai Fjords เป็นพื้นที่ที่ถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งจึงทำให้มีทัศนียภาพที่
สวยงามราวกับอยู่ในยุคน้ำแข็งเลยทีเดียว อุทยานแห่งนี้มีสภาพภูมิอากาศที่เหมาะสำหรับสัตว์น้ำ
อย่างวาฬเป็นอย่างมาก จึงทำให้พบเห็นวาฬที่อพยพมาค่อนข้างบ่อย ภายในอุทยานยังมีรีสอร์ตไว้
คอยรองรับและมีไกด์ไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย แต่ด้วยสภาพอากาศที่ค่อนข้างหนาวจึง
ทำให้เหล่านักท่องเที่ยวมักมาเที่ยวชมแบบวันเดย์ทริปกันมากกว่า
4. ธารน้ำแข็งเมนเดนฮอลล์ (Mendenhall Glacier)
ธารน้ำแข็งเมนเดนฮอลล์ เป็นธารน้ำแข็งที่มีขนาดใหญ่และสวยที่สุดในอลาสกา ตั้งอยู่ไม่ไกล
จากเมืองจูโนสามารถเดินทางมาได้โดยขนส่งสาธารณะ หรือถ้าหากว่าต้องการชมธารน้ำแข็ง
แบบมุมกว้างก็สามารถนั่งเฮลิคอปเตอร์เพื่อชมความงามและถ่ายรูปในมุมสูงที่เห็นธารน้ำแข็ง
แบบชัดเจนได้ อีกทั้งที่นี่ยังมีการจัดนิทรรศการเกี่ยวกับธารน้ำแข็งให้นักท่องเที่ยวได้ชมอีกด้วย
5. จูโน (Juneau)
จูโน เป็นเมืองหลวงของรัฐอลาสกา ในปัจจุบันเป็นท่าเรือหลักที่สำคัญของเรือสำราญ และเป็น
ที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังมากมาย เช่น Alaska State Museum, Alaska State Capitol
และ Shrine of St Therese ภายในเมืองแห่งนี้การเดินป่าถือเป็นกิจกรรมอย่างหนึ่งที่เป็นที่นิยม
อย่างมากสำหรับนักท่องเที่ยว เพราะมีเส้นทางที่หลากหลายและบางเส้นทางสามารถมองเห็นวิว
ของเมืองได้อย่างชัดเจน อีกทั้งเมืองจูโนยังขึ้นชื่อในเรื่องของโรงเบียร์ ถึงขนาดที่ว่ามีบริษัททัวร์
หลายแห่งจัดโปรแกรมพามาชมโรงเบียร์ในเมืองนี้อีกด้วย รวมไปถึงมีร้านอาหารและแหล่งขาย
ของที่ระลึกมากมาย ในย่าน Front Street ให้คุณได้เดินช้อปปิ้งได้อย่างเต็มที่
6. เมืองโฮมเมอร์ (Homer)
หากคุณชื่นชอบการสำรวจธรรมชาติ และตกปลา คุณไม่ควรพลาดที่นี่ ที่เมืองโฮเมอร์
ตั้งอยู่บนคาบสมุทร Kenai เป็นประตูสู่อุทยานแห่งชาติ และเป็นแหล่งประมงที่ใหญ่ที่สุด
ในอลาสกา เมืองแห่งนี้ไม่ว่าจะมองไปมุมไหนคุณก็จะมองเห็นแต่ภูมิทัศน์ที่สวยงาม และ
สัตว์ป่านานาชนิด โดยกิจกรรมที่ห้ามพลาดเลย นั่นก็คือการตกปลาฮาลิบัต ซึ่งเป็นที่นิยม
มาก ๆ และอีกหนึ่งไฮไลท์ของเมืองนี้ คือร้านอาหารท้องถิ่น ซึ่งนักท่องเที่ยวทุกคนที่
ไปเยือน ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ควรไปลิ้มลองให้ได้สักครั้ง
7. อุทยานแห่งชาติ กลาเซียร์ เบย์
(Glacier Bay National Park)
อุทยานแห่งชาติ กลาเซียร์ เบย์ เป็นจุดชมธารน้ำแข็งที่มีชื่อเสียงระดับโลก คุณสามารถออก
ไปพายเรือคายัค เพื่อชมทัศนียภาพรอบ ๆ ได้ โดยสามารถเช่าได้ด้วยตัวเอง หรือผ่านไกด์
นำเที่ยว และในบริเวณ บาร์ตเลตต์โคฟ (Bartlett Cove) มีจุดที่มีชื่อเสียงที่คุณสามารถไป
ถ่ายรูป 2 แห่ง คือ Muir Inlet และ ธารน้ำแข็ง John Hopkins
8. เมืองเคตชิแกน (Ketchikan)
เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของอลาสกา มีทิวทัศน์ที่มีความสวยงาม และเป็นที่ตั้งของ
สถานที่ท่องเที่ยวมากมาย เช่น พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ Totem Heritage Center และ
พิพิธภัณฑ์ Southeast Alaska Discovery Center นอกจากนี้ บริเวณย่านใจกลางเมือง
ไม่ไกลจากท่าเรือสำราญ คุณจะพบกับถนนครีกสตรีท ย่านการค้าอันเก่าแก่ของเมืองนี้
ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นย่านขายบริการที่เป็นที่นิยมมาก
9. เมืองแองเคอเรจ (Anchorage)
เมืองนี้เรียกได้ว่าเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในอลาสกา ประชากรเกือบครึ่งของรัฐอาศัยอยู่
ในเมืองนี้ เนื่องจากเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของอลาสกา ในเมืองแห่งนี้มีสถานที่เที่ยวที่น่าสนใจ
อย่างพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ และ ศิลปะแองเคอเรจ (Anchorage Museum of History and Art)
และ ศูนย์มรดกพื้นเมืองอลาสกา ( Alaska Native Heritage Center) หรือหากคุณต้องการชม
ธรรมชาติคุณสามารถขับรถไปตามทางหลวง Seward เพื่อไปยังอุทยานชมนกพอตเตอร์มาร์ช
(Potter’s Marsh) ได้เช่นกัน
10. อุทยานแห่งชาติ แรงเกล เซนต์ อีเลียส
(Wrangell St. Elias National Park)
อุทยานแห่งชาติ Wrangell St. Elias เป็นอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา
ตั้งอยู่ใจกลางระหว่างสามเทือกเขา ได้แก่ ชูกาค (Chugach), แรงเกล (Wrangell) และ
เซนต์ อีเลียส (St. Elias) อุทยานแห่งนี้มีศูนย์บริการข้อมูล และสถานีตำรวจหลายแห่ง
คุณจึงมั่นใจได้ว่า คุณจะสามารถออกเดินทางตั้งแคมป์ได้อย่างปลอดภัย ในอุทยานแห่งนี้
ที่มา: https://www.touropia.com/best-places-to-visit-in-alaska/#comments
เป็นยังไงบ้างน้าาคนรักธรรมชาติ มีที่ไหนถูกใจไหมเอ่ย ปักหมุดไว้เพื่อไปเที่ยวอลาสกาชิลล์ ๆ กันเลยยย
Line : @tourddtooktook
☎️โทร: 02-010-8840
📞สายด่วน: 091-739-6939 พี่หวิน // สายด่วน: 090-894-3331
เว็บไซต์: https://www.we-rworldtour.com/
Facebook: https://www.facebook.com/werworldtour/
❤️🧡💚💛💜❤️🧡💚💛💜❤️🧡💚💛💜❤️🧡💚💛💜❤️🧡💚💛💜❤️🧡💚💛💜❤️🧡💚💛💜
ขอขอบคุณรูปภาพสวยๆ จาก : shutterstock