14 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมใน บาร์เซโลนา

14 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมใน บาร์เซโลนา (Barcelona)

บาร์เซโลนา เมืองหลวงที่มีชีวิตชีวาของคาตาโลเนีย เป็นเมืองชายทะเลที่สวยงามแสดงให้เห็นถึงความงามและวิถีชีวิตที่สดใส ด้วยทิวทัศน์อันงดงามสถาปัตยกรรมที่น่าทึ่ง และสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่ยอดเยี่ยม ทำให้เป็นจุดหมายปลายทางที่ใครหลายๆคนอยากมาเยี่ยมชม

1.Basilica de la Sagrada Familia

เป็นโบสถ์ที่แปลกที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป มีความงดงดงามและมีชื่อเสียงที่สุดใน บาร์เซโลนา ได้รับการขึ้นทะเบียนโดยองค์การยูเนสโก ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมือง โดยมีหอคอยทรงกลม 18 หลังที่สูงตระหง่านเหนืออนุสาวรีย์อื่น ๆ ทั้งหมด Basilica of the Sacred Family เป็นที่รู้จักในภาษาสเปนโดยใช้ชื่อทางการว่า Temple Expiatori de la Sagrada Família Antoni Gaudí ได้รับหน้าที่ให้ออกแบบมหาวิหารแห่งนี้เป็นโบสถ์แบบนีโอโกธิค ในปีพ. ศ. 2426 เขาสร้างผลงานที่เป็นเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรม Art Nouveau เหนือจริงที่มีชื่อเสียงของเขา แม้ว่า Gaudí จะคาดการณ์ไว้ให้เสร็จในช่วง 10-15ปี แต่ก็ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ และไม่มีใครรู้ว่าจะเสร็จสมบูรณ์หรือไม่ และจะเสร็จเมื่อไหร่ คุณจะได้สัมผัสกับอาคารอันหรูหรา โดยมีซุ้มการประสูติที่แสดงออกถึงการประสูติของพระเยซูและซุ้มความรักที่แสดงให้เห็นถึงความทุกข์ทรมานความตายและการฟื้นคืนชีพของพระเยซู ที่สวยงาม ภายในเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ยาว 90 เมตรสูง 60 เมตร เพดานเปล่งประกายด้วยการตกแต่งที่หรูหราและหน้าต่างกระจกหลากสีที่ให้แสงส่องเข้ามา

2.Barri Gòtic (Gothic Quarter)

Gothic Quarter เป็นศูนย์กลางทางจิตวิญญาณและทางโลกของเมืองเป็นเวลา 2,000 ปี ยังคงพบพระธาตุของอาคารโรมันโบราณที่นี่ มหาวิหารยุคกลางเแห่งนี้เป็นสถาปัตยกรรมโกธิคชิ้นเอก ตั้งอยู่บน Monte Tabor ซึ่งเป็นจุดที่สูงที่สุดในใจกลางเมือง Gothic Quarter เป็นที่ที่คริสโตเฟอร์โคลัมบัสได้รับการต้อนรับจากพระมหากษัตริย์คาทอลิก ด้วยถนนที่แคบและคดเคี้ยวเหมือนเขาวงกตทำให้ยากต่อการที่จะเข้าไปถึง ด้านในไม่มีการจราจร มีพลาซ่าที่เงียบสงบและงดงามแต่มีชีวิตชีวาด้วยเสียงจากผู้คนที่อยู่ที่นั่น มีร้านกาแฟและร้านอาหารให้เลือกมากมาย ที่มีพิพิธภัณฑ์ Picasso และPlaça del Rei ซึ่งเป็นสถานที่ที่จัดคอนเสิร์ตกลางแจ้งในบางครั้ง

3.Casa Mila (La Pedrera)

Casa Milàที่ได้รับการขึ้นทะเบียนโดยองค์การยูเนสโกเป็นอาคารฆราวาสที่มีชื่อเสียงที่สุดของ Antoni Gaudí Casa Mila และยังเป็นที่รู้จักกันในชื่อ “La Pedrera” ซึ่งแปลว่า “The Stone Quarry” เนื่องจากอาคารมีลักษณะคล้ายกับเหมืองหินแบบเปิด สร้างขึ้นระหว่างปี พ.ศ. 2449 ถึง พ.ศ. 2455 ด้วยสไตล์และสีสันที่สดใสทำให้ที่อยู่อาศัยแห่งนี้ดูเหมือนประติมากรรมมากกว่าอาคารที่ใช้งานได้จริง ทางเข้าอาคารอยู่ที่ Carrer de Provençaผ่านประตูเหล็กดัดอันโดดเด่น ที่นำเข้าไปสู่ลานภายใน อาคารสร้างโดยซุ้มยางที่ออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์ในการรับน้ำหนักซึ่งเป็นคุณลักษณะที่แสดงให้เห็นถึงความอัจฉริยะของGaudíในฐานะวิศวกรโครงสร้าง นักท่องเที่ยวสามารถเดินไปรอบ ๆ ระเบียงดาดฟ้าเพื่อชมปล่องไฟที่ประดับด้วยกระเบื้องโมเสครูปทรงแปลกตาอย่างใกล้ชิด Casa Mila เป็นที่ตั้งของศูนย์กลางวัฒนธรรมFundació Catalunya ซึ่งจัดงานตลอดทั้งปี เปิดให้เข้าชมทุกวันและมีออดิโอไกด์ Cafè La Pedrera เป็นที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวและเป็นสถานที่ที่ให้ความผ่อนคลายเหมาะสำหรับการรับประทานอาหารว่างและเพลิดเพลินกับบรรยากาศภายในร้านที่จัดไว้

4.La Rambla: Barcelona’s Social Hub

ชีวิตทางสังคมของบาร์เซโลนาอยู่ที่ La Rambla ซึ่งเป็นถนนกว้างที่มีร่มเงาของต้นไม้ที่แบ่งเขตเมืองเก่าออกเป็นสองส่วน La Rambla ทอดยาวจากPlaça de Catalunya ซึ่งเป็นที่ตั้งของคอนแวนต์ Santa Anna ในศตวรรษที่ 12 สไตล์โรมาเนสก์ที่สวยงามตลอดทางลงไปที่ท่าเรือ ถนนแห่งนี้มีทางเท้ากว้างขวางเรียงรายไปด้วยร้านค้าร้านอาหารและคาเฟ่กลางแจ้ง ทำให้ที่นี่เป็นแหล่งแฮงเอาท์ยอดนิยมแห่งหนึ่งในเมือง ระหว่างวันมีผู้คนจำนวนมากมาจับจ่ายซื้อของที่ Mercat de la Boqueria และในตอนกลางคืนกลุ่มเพื่อนและครอบครัวจะพากันไปเดินเล่นที่ La Rambla เพื่อรับอากาศบริสุทธิ์ บรรยากาศที่มีชีวิตชีวานี้ขึ้นอยู่กับวัน บางวันมีการแสดงดนตรีสดการแสดงละครใบ้หรือการแสดงบนท้องถนน และทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของ La Rambla มีพรมแดนติดกับ Barri Gòtic เป็นพลาซ่าที่ล้อมรอบด้วยบ้านเก่าแก่ อาคารเหล่านี้มีร้านค้าร้านกาแฟและร้านอาหารมากมาย อนุสาวรีย์ที่สำคัญอีกแห่งใน La Rambla คือ Palau Güell คฤหาสน์หลังใหญ่ที่ออกแบบโดย Antoni Gaudíในปีพ. ศ. 2429 เจ้าของ Eusebi Güellเป็นผู้อุปถัมภ์งานศิลปะที่ยิ่งใหญ่และอาคารแห่งนี้สร้างด้วยห้องโถงทรงโดมขนาดใหญ่สำหรับอ่านบทกวีและคอนเสิร์ตส่วนตัว อาคารทั้งหลังสะท้อนให้เห็นถึงความมั่งคั่งมหาศาลของGüellด้วยการตกแต่งที่หรูหราและเฟอร์นิเจอร์งานฝีมือที่สร้างสรรค์โดยGaudí

5.Palau de la Música Catalana (Palace of Catalan Music)

Palau de la Música Catalana สร้างขึ้นระหว่างปีพ. ศ. 2448 และ พ.ศ. 2451 เพื่อเป็นห้องแสดงคอนเสิร์ตสำหรับวงดนตรีประสานเสียงOrfeóCatalà Palau de la Música Catalana ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกLluísDomènech i Montaner ในสไตล์ Catalan Modernista แต่ถึงแม้ว่าอาคารจะโดดเด่นด้วยเส้นโค้งที่มีสีสันซึ่งแตกต่างจากผลงานของ Gaudi แต่การออกแบบนี้ก็นำเสนอฟังก์ชันที่ล้ำหน้ากว่า แม้ว่าการตกแต่งภายในจะดูมีสีสันและสวยงามพอ ๆ กับภายนอก แต่รูปทรงและการตกแต่งก็มีไว้สำหรับการร้องเพลงประสานเสียงและการแสดงดนตรีอื่น ๆ คอนเสิร์ตฮอลล์ของปาเลามีที่นั่งประมาณ 2,200 ที่ เป็นหอประชุมแห่งเดียวในยุโรปที่สว่างไสวในช่วงเวลากลางวันด้วยแสงธรรมชาติทั้งหมด ผนังทั้งสองด้านส่วนใหญ่ประกอบด้วยบานกระจกสีที่ตั้งอยู่ในส่วนโค้งที่งดงามและเหนือศีรษะเป็นกระจกสีขนาดใหญ่ที่ออกแบบโดย Antoni Rigalt ซึ่งมีแกนกลางเป็นโดมคว่ำในเฉดสีทองที่ล้อมรอบด้วยสีน้ำเงินซึ่งแสดงถึงดวงอาทิตย์และท้องฟ้า

6.Parc Güell: Gaudí’s Surrealist Park

มีสีสันสดใสและเต็มไปด้วยความแปลกประหลาด อุทยานแห่งนี้เป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโกอีกแห่งที่ออกแบบโดย Antoni Gaudí Park Güell สร้างขึ้นระหว่างปี 1900 ถึง 1914 โครงสร้างเหล่านี้ได้รับการตกแต่งด้วยเศษเซรามิกหลากสี มีระเบียงที่สวยงามมองเห็นทัศนียภาพอันงดงามของเมืองและทะเล

7.Casa Batlló

Casa Batllóได้รับการขึ้นทะเบียนโดยองค์การยูเนสโก เป็นหนึ่งในอาคารสมัยใหม่ที่มีลักษณะเฉพาะที่สุดใน บาร์เซโลนา ได้รับการออกแบบให้เป็นที่พักส่วนตัวสำหรับ Josep Batlló i Casanovas ผู้ผลิตสิ่งทอ ด้วยรูปทรงที่อิสระและการตกแต่งด้านหน้าอาคารนี้ ทำให้ดูเหมือนปราสาทจากเทพนิยายเหนือจริง

8.Camp Nou

เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับแฟนสถาปัตยกรรม Camp Nou จึงเป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดสำหรับแฟนฟุตบอล (ฟุตบอล) สนามกีฬา FC Barcelona เป็นสนามกีฬา 99,354 ที่นั่ง ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปและใหญ่เป็นอันดับสองของโลก เป็นหนึ่งในสถานที่จัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนปี 1992 ในบาร์เซโลนา

9.The Magic Fountain

สิ่งหนึ่งที่ชอบทำในบาร์เซโลนาในตอนกลางคืนคือการชม Magic Fountain of Montjuïcที่จุดเริ่มต้นของ Avinguda Maria Cristina ในย่านMontjuïc น้ำพุอาร์ตเดโคขนาดใหญ่สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2472 สร้างความพึงพอใจให้กับทุกๆคน ด้วยการแสดงแสงและสายน้ำที่มีท่าเต้นเข้ากับดนตรี ได้รับการออกแบบโดย Carles Buigas สำหรับงานนิทรรศการนานาชาติปี 1929 ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองMontjuïc การแสดงใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง

10.Scenic Views and Art Museums in Montjuïc

บนยอดเขาแห่งนี้เป็นที่ตั้งของสุสานชาวยิวเก่าแก่ ชื่อ “Mont Juïc” ซึ่งแปลว่า “ภูเขาของชาวยิว” ตั้งอยู่เหนือน้ำทะเล 213 เมตร เนินเขามีป้อมปราการบนยอดเขาและลาดชันลงสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน พื้นที่ที่สวยงามของเมืองแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องสวนธรรมชาติที่สวยงามพร้อมทิวทัศน์ที่สวยงามและพิพิธภัณฑ์ชั้นยอด พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติคาตาโลเนียมีคอลเลคชันงานศิลปะคาตาลันที่โดดเด่นตั้งแต่ศตวรรษที่ 10 ถึง 20 รวมถึงประติมากรรมภาพวาด ภาพสลัก และภาพถ่าย Poble Espanyol (หมู่บ้านสเปน) เป็นอีกหนึ่งสถานที่ยอดนิยม หมู่บ้านที่มีเสน่ห์แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อจัดนิทรรศการโลกปี 1929 Montjuïc เป็นสถานที่จัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนปี 1992 และนักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมสนามกีฬาที่จัดการแข่งขันโอลิมปิกได้

11.La Barceloneta

บริเวณใกล้เคียงของ La Barceloneta อยู่ติดกับท่าเรือสำราญและอยู่ติดกับหาด Sant Sebastiàที่ยาวและกว้าง ชาวบ้านชอบไปอาบแดดเล่นกระดานโต้คลื่นและสังสรรค์ในร้านอาหารทะเลและร้านทาปาสหลายแห่งที่มองเห็นทะเล มีทางเดินทอดยาวที่เรียงรายไปด้วยต้นปาล์มเชื่อมต่อกับพื้นที่ชายหาดไปยังท่าจอดเรือที่เต็มไปด้วยเรือยอทช์ และจะได้เห็นวิวที่สวยงามของท่าจอดเรือ

12.Monestir de Pedralbes

Monestir de Pedralbes ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะเล็ก ๆ ที่สวยงามเรียกว่า Jardines Reina Elisenda สวนอันงดงามแห่งนี้เต็มไปด้วยพุ่มไม้พื้นเมืองต้นปาล์มไซเปรสและต้นไม้ใหญ่ Queen Elisenda de Montcada ก่อตั้งคอนแวนต์ในปี 1326 สำหรับ Order of Saint Clare คอมเพล็กซ์มีโบสถ์สไตล์โกธิคอันงดงาม 3 ชั้น ที่เงียบสงบทุกคนที่เข้าไปจะเพลิดเพลินกับการพักผ่อนในบรรยากาศอันเงียบสงบและเรียนรู้ชีวิตและการทำงานของแม่ชี อีกหนึ่งไฮไลท์ของการเยี่ยมชมคือ Monastery Museum ซึ่งจัดแสดงผลงานศิลปะยุคกลางที่โดดเด่นตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 ตลอดจนศิลปะทางศาสนาที่สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 20

13.Mercat de la Boqueria

เป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่และเก่าแก่ ขายผักและผลไม้ที่มีสีสัน แซนวิช ขนมอบทั้งคาวและหวาน ช็อคโกแลตรูปปั้นมาร์ซิปันแปลก ๆ สมูทตี้ผสมอัลมอนด์ สเปนเบอร์ริโต ขนมปัง พริกที่มีสีสันสดใส และอีกมากมาย La Boqueria คือความอบอวน ของสีและกลิ่นของอาหาร ทุกๆเช้าของที่นี่จะมีชาวบาร์เซโลนามาจับจ่ายซื้อของกันอย่างวุ่นวาย เพื่อไปไว้ทำอาหารในยามค่ำคืน

14.Quadrat d’Or

Quadrat d’Or (Quadrant of Gold) เป็นพื้นที่ของเขต Eixample ที่มีชื่อเสียงในด้านสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ ในบริเวณนี้มีอาคารที่ทันสมัยที่โดดเด่นได้รับแรงบันดาลใจจากผลงานของ Antoni Gaudíและสร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20 ถนนสายหลักที่ผ่านคือ Passeig de Gràcia สถาปนิกต่างสร้างผลงานในแต่ละพื้นที่และสิ่งที่ได้คือความหลากหลายของสไตล์โมเดิร์นนิสต์ Quadrat d’Or เป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชม

ที่มา https://www.planetware.com/tourist-attractions-/barcelona-e-cat-bar.htm

Line : @tourddtooktook

โทร: 02-010-8840