เบอร์ลิน เมืองหลวงที่ไม่มีใครไม่รู้จัก

เบอร์ลิน (Berlin) ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือและเป็นเมืองหลวงของประเทศเยอรมนี ในเมืองมีประวัติศาสตร์ต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย
ที่นี่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนติด 1 ใน 5 ของทวีป และเป็นเมืองที่มีอิทธิพลมากที่สุดในยุโรป ไม่ว่าจะเป็นด้านวัฒนธรรม การเมือง และการคมนาคม

กำแพงเบอร์ลิน

กำแพงเบอร์ลิน (Berlin Wall) ถือว่าเป็นร่องรอยประวัติศาสตร์แห่งการปกครองที่สำคัญมากอย่างหนึ่งของเยอรมนี
ที่แยกระหว่างตะวันออกและตะวันตก โดยที่กำแพงเบอร์ลินสร้างขึ้นมาในช่วงที่เกิดสงครามเย็น สร้างไว้เพื่อปิดกั้น
ระหว่างเยอรมนีฝั่งตะวันตก และ เยอรมนีฝั่งตะวันออก โดยรวมๆแล้ว กำแพงเบอร์ลินมีความยาว 155 กิโลเมตร
เริ่มสร้างเมื่อ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2504 (ค.ส.1961) ก่อนที่จะมีการทำลายกำแพงในวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2532
รวมเวลาที่ปิดกั้นเยอรมนีทั้งสองฝั่งเป็นเวลา 28 ปี

นับตั้งแต่การสร้างกำแพงเบอร์ลิน การข้ามผ่านแดนจากเยอรมนีตะวันออก ไปยังเยอรมนีตะวันตก กลายเป็นเรื่องผิดกฎหมาย
หากมีการฝ่าฝืนและถูกพบเห็น มีโทษสถานเดียว คือ การยิงทิ้ง ณ บริเวณกำแพงนั่นเอง ตลอดระยะเวลา 28 ปี คาดว่ามีผู้เสียชีวิต
ที่กำแพงเบอร์ลินขณะหลบหนีระหว่าง 137 ถึง 206 คน โดยปัจจุบันได้เหลือซากกำแพงที่ยังไม่ถูกทำลายให้นักท่องเที่ยวเข้ามา
ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกกัน เพราะ แต่ละกำแพงต่างก็มีศิลปินมาวาดภาพไว้ ทำให้ดูสวยไปอีกรูปแบบนึง

ประตูบรันเดนบูร์ก

ประตูบรันเดนบูร์ก (Brandenburg Gate) สถานที่ท่องเที่ยวที่เปรียบเสมือนเป็นสัญลักษณ์ของเมือง เบอร์ลิน ประเทศ เยอรมนี
โดย ประตูบรันเดนบูร์ก นั้นตั้งอยู่ระหว่างอาคาร Holocaust Memorial และ Reichstag ที่อยู่ใจกลางกรุงเบอร์ลิน เป็นจุดสำคัญ
จุดหนึ่งที่นักท่องเที่ยวควรมาเก็บภาพถ่ายเป็นที่ระลึก ถ้าหากได้มาที่เยอรมนี

ประตูบรันเดนบูร์กนั้นสร้างขึ้นจากหินทราย เป็นซุ้มประตูในรูปแบบนีโอคลาสสิก ถูกสร้างขึ้นมาในปี ค.ศ.1971 มีความสูง 30 เมตร
เป็นการจำลองมาจากวิหารอะโคโพรีส ในเอเธนส์

ส่วนภายใน ประตูบรันเดนบูร์ก จะมีประติมากรรมที่สวยงามของเทพปกรณัมกรีก ถ้าหากมาในตอนกลางคืน แสงไฟที่ประดับตกแต่ง
จะเปิดให้กับนักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูป และสถานที่แห่งนี้ยังใช้ในการเฉลิมฉลอง เทศกาลต่างๆของชาวเบอร์ลินอีกด้วย

มหาวิหารเบอร์ลิน

มหาวิหารเบอร์ลิน (Berlin Cathedral) มหาวิหารถูกสร้างในระหว่างปี 1894-1905 ในรูปแบบสไตล์อิตาเลียนเรอเนสซองส์ อีกทั้ง
ยังเป็นมหาวิหารนิกายโปรเตสแตนต์ที่ใหญ่ที่สุดในเบอร์ลิน เป็นมหาวิหารที่ทำพิธีการเจิมน้ำมนต์ เข้าพิธีอภิเษกสมรส และใช้เป็น
สถานที่ฝังศพของสมาชิกในราชวงศ์อีกด้วย

ในปัจจุบันนั้น มหาวิหารเบอร์ลินได้รับการบูรณะขึ้นอย่างเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 1973 ที่เสียหายจากสงครามโลกครั้งที่สองในปี ค.ศ. 1944

พิพิธภัณฑ์เพอร์กามอน

พิพิธภัณฑ์เพอร์กามอน (PERGAMON MUSEUM) เป็น 1 ใน 10 พิพิธภัณฑ์ชั้นเยี่ยมของโลก ที่มีการเก็บรวบรวมงานศิลปวัตถุโบราณ
ล้ำค่าของโลก และเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งสุดท้ายในเกาะพิพิธภัณฑ์ หรือ Museum Island ซึ่งภายในเกาะก็จะประกอบไปด้วยพิพิธภัณฑ์
อยู่ 5 แห่ง ได้แก่ Bode Museum, Pergamon Museum, Neues Museum, Alte Nationalgalerie and Altes Museum ตั้งอยู่ที่จุดศูนย์
กลางของกรุงเบอร์ลินบนแม่น้ำสปรี ภายในมีการจัดแบ่งออกเป็นโซน โซนนี้คือ เพอร์กามอน อัลตาร์ (Pergamon Altar) วิหารแท่นบูชา
เทพเจ้าซุส ขนาดยักษ์ ในยุคศตวรรษที่ 2 ก่อนคริสตกาล ที่ถูกค้นพบที่เมืองเพอร์กามอน ประเทศตุรกี ซึ่งในการขุดค้นพบวิหารแห่งนี้
มีนักโบราณคดีชาวเยอรมันร่วมอยู่ด้วย จึงได้นำชิ้นส่วนบางชิ้นกลับมาเพื่อบูรณะและปะติดปะต่อเสมือนดั่งประกอบจิ๊กซอร์ และเขาใช้
เวลาถึง 20 ปี ในการจัดทำให้วิหารแห่งนี้มีขนาดเท่าของจริง