🌻 ไต้หวัน 10 สถานที่ที่ไม่ควรพลาด
ไต้หวัน 10 สถานที่ที่ไม่ควรพลาด
ไต้หวัน มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ที่สวยงามและน่าสนใจ ประเทศใกล้บ้าน เดินทางเพียงไม่เกิน 4 ชั่วโมง ไต้หวันมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง วันนี้ We R World Tour ได้รวบรวมมาไว้ที่นี่จ้า …
อนุสรณ์สถาน Chaing Kai-Shek Memorial Hall
อนุสรณ์สถานแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อรำลึกและเทิดทูนอดีตประธานาธิบดีผู้ใหญ่ของไต้หวัน คือ เจียงไคเช็ก โดยสร้างขึ้นในวันที่ 31 ตุลาคม ค.ศ. 1976
ซึ่งตรงกับวันเกิดปีที่ 90 ของท่านและเปิดใช้งานในวันครบรอบ 5 ปีของการจากไปของท่านในวันที่ 5 เมษายน ค.ศ 1980 ตัวอาคารถูกสร้างได้อย่าง
ยิ่งใหญ่อลังการ ตั่งอยู่บนพื้นที่ลานกว้างใหญ่
สปัตยกรรม ของตัวอาคารจะเป็นแบบจีน มีกำแพงสีขาว หลังคาสีฟ้าเป็นสัญลักษณ์ของอิสรภาพและความเท่าเทียม และด้านมีอาคารจะมีบรรได
ทั้งหมด 89 ชั้นซึ่งมีจำนวนเท่ากับอายุ เจียง ไคเช็ก ถ้าเดินขึ้นบรรได้นี้จะนำท่านไปสู่ห้องโถ่งที่มีรูปปั้นเคียง ไคเช็ก มีขนาดสูงถึง 6.3 เมตรและจะมีทหารสองนายยืนเฝ้าอยู่
สำหรับไฮไลท์ของที่นี้ที่พลาดไม่ได้เลย คือ พิธีการเปลี่ยนผลัดเวรยามของทหาร โดยมีทุกๆ 1 ชั่วโมง ตั้งเวลา 10.00-16.00 น. ของทุกวัน
โดยทหารจะมีทั้งหมดสามเหล่าทัพ จะผลัดเปลี่ยนกันทุกๆ 4 เดือน คือ กองทัพบก,กองทัพเรือ,กองทัพอากาศ
วัดหลงซาน Lungshan Temple
วัดหลงซานสร้างขึ้นในปี ค.ศ 1738 โดยชาวจีนผู้อพยพมาจากมณฑลฝูเจี้ยน และได้รับการบูรณะปฎิสังขรณ์หลายครั้งหลายคราตามกาลเวลา วัดเก่าแก่
อายุราวๆ 300 ปีแห่งนี้ไม่เพียงเป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมวิจิตรงดงามควรค่าแก่การเที่ยวชม แต่ยังเป็นศูนย์รวมทางจิตใจของพุทธศาสนิกชนชาวไต้หวัน
ภายในบริเวณวัดแบ่งออกเป็นตำหนักหน้า ตำหนักวิหารหลัก และตำหนักหลัง แต่ละตำหนักตกแต่งอย่างละเอียดอ่อน โดยเฉพาะลวดลายแกะสลักตาม
ซุ้มประตูและหลังคา บริเวณหน้าตำหนักหน้ามีลานน้ำตกอยู่ทางขวา
ภายในวัดกลิ่นอบอวลด้วยกลิ่นธูปและเนืองแน่นไปด้วยผู้คนที่หลั่งไหลมากราบไหว้ขอพรพระ และเทพเจ้าต่างๆ จากหลากหลายสัทธิทั้งพุทธ
ขงจื่อ และเต๋า รวมกันแล้วมีมากกว่า 100 องค์ โดยมีพระโพธิสัตว์กวนอิมเป็นองค์พระประธานของวัด ที่ประดิษฐานอยู่ในตำหนักวิหารหลัก
ตีก Taipei 101
แลนด์มาร์กของไต้หวันไม่พ้นที่นี้แน่นอน Taipei 101 ตึกสูงระฟ้า มีความสูงถึง 508 เมตร มีทั้งหมด 101 ชั้น และยังเคยติดอันดับ 1 ตึกที่สูงที่สุดในโลก
แต่ปัจจุบันเสียแชมป์ให้กับตึก Burj Khalifa ของดูไบ ตึกไทเป 101 เป็นแหล่งที่ตั่งสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า โดยส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูป
กับตึกไทเป
หรือจะขึ้นตึกเพื่อไปชมวิวของเมืองไทเปโดยจะต้องเสียค่าขึ้นท่านละ 500 บาท โดยที่ชั้น 5 จะมีเคาเตอร์ขายตั๋วสำหรับขึ้นลิฟท์ไปยังจุดชมวิว
ที่ชั้น 89 ที่เรียกว่า Taipei 101 Observatory ซึ่งเป็นลิฟท์ที่ได้รับการลงเป็นสถิติว่าเร็วที่สุดในโลกโดยกินเนสส์เวิลด์เรคคอร์ด (Guinness Book World Records)
ที่ความเร็ว 1010 เมตรต่อนาที โดยภายในลิฟท์จะมีหน้าจอที่เพดานลิฟท์ทำเหมือนว่าเรากำลังพุ่งออกไปในอวกาศให้ชมระหว่างอยู่ในลิฟท์ด้วย
ใช้เวลาไม่ถึง 1 นาทีก็ขึ้นมาถึงชั้น 89 ซึ่งเป็นชั้นชมวิวกว้างๆอยู่ในอาคาร
วัดเหวินวู่ Wenwu Temple
วัดเหวินหวู่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของทะเลสาบฝั่งดวงอาทิตย์ ถ้านั่งเรือล่องทะเลสาบส่วนใหญ่เรือจะมาจอดฝั่งนี้กัน
วัดสร้างขึ้นในสมัยอาณานิคมญี่ปุ่นอาคารวัดมีขนาดใหญ่สร้างตามสถาปัตยกรรมพระราชวังจีน ประดิษฐานเทพกวนอู
เทพเจ้าแห่งโชลาภและบารมีเคียงคู่กับเทพเย่ว์เฟยในวิหารหลักพร้อมกับเทพอื่นๆ อีกมากมาย
วัดแห่งนี้ยังมีไฮไลท์สำหรับคือการนำกระดิ่งสีทองมาแขวนไว้ตามบันได ซึ่งส่วนใหญ่ผู้คนนิยมนำกระดิ่งประจำปีนักษัตร
ของตนไปแขวนตามบันไดสวรรค์หรือบันไดแห่งปี ซึ่งมีทั้งหมด 366 ขั้นจากตลิ่งจนถึงวัดและแต่ละขั้นแทนวัดในหนึ่งปี
กระดิ่งสามารถซื้อได้ในวัด จากนั้นนำกระดิ่งมาเขียนชื่อและคำขอพร แล้วปีนขึ้นยอดบันไดบนวัดเพื่อสั่นกระดิ่ง
ก่อนนำไปแขวนไว้บนราวที่ตรงกับขั้นบันไดประจำวันเกิด
ฉือเฟิ่น (Shifen)
หมู่ฉือเฟิ่นเป็นหมู่บ้านเล็กๆ อยู่ในอำเภอผิงสี เป็นหมู่บ้านโบราณที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว กลางหมู่บ้านมีทางรถไฟพาดผ่าน
เนื่องจากในอดีตเคยเป็นปลายทางของรถไฟที่ใช้ขนถ่านหิน เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป ทางการไต้หวันก็ได้เข้ามาพัฒนาหมู่บ้านโดยร่วมกันชุมชม
ที่นี่มีทั้งน้ำตกขนาดใหญ่ มีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ ทั้งหมดนั้นเพียงพอที่จะทำให้ฉือเฟิ่นกลายเป็นสถานที่เที่ยวที่เราไม่ควรพลาด
หมู่บ้านแห่งนี้นอกจากจะได้เที่ยวน้ำตกแล้ว ยังได้เพลิดเพลินกับการปล่อยโคมลอย และทานของอร่อยๆ ได้ตลอดสองข้างทาง
โคมลอยของไต้หวัน มีชื่อว่า “โคมขงหมิง” ถูกประดิษฐ์ขึ้นโดยขงเบ้ง ที่ปรึกษาด้านการทหารคนสำคัญในประวัติศาสตร์
ยุคสามก๊ก เพื่อใช้เป็นเครื่องมือสื่อสารของกองทัพตั่งแต่เมื่อครั้งอดีต
โคมลอยของที่นี่จะมีสีสันต่างๆมากมาย และหลายราคา เริ่มตั่งแต่สีเดียว 150 ดอลล่าร์ไต้หวัน 4 สี 200 ดอลลาร์ไต้หวัน
และ 8 สี 350 ดอลล่าร์ไต้หวัน เมื่อซื้อแล้วก็เขียนชื่อ คำอธิฐาน แล้วจุดไฟลอยขึ้นไป แต่ละสีก็มีความเชื่อที่ต่างกัน เช่น
สีแดง หมายถึง โชคดี
สีส้ม หมายถึง ประสบความสำเร็จ
สีฟ้า หมายถึง ปราศจากภัยอันตราย
สีเขียว หมายถึง สุขภาพแข็งแรง
สีขาว หมายถึง อนาคตที่สดใส
สีชมพู หมายถึง ความรักราบรื่น
สีม่วง หมายถึง การงานการศักษารุ่งโรจน์
สีเหลือง หมายถึง ความร่ำรวย
สีพีช หมายถึง มีสัมพันธภาพที่ดี
ทะเลสาบสุริยันจันทรา Sun Moon Lake
ทะเลสาบสุริยันจันทราเปรียบเสมือนขุมสมบัติที่ซ่อนอยู่ในใจกลางของเกาะไต้หวัน ด้วยน้ำสีเขียวครามประดุจมรกต
ห้อมล้อมด้วยเทือกเขาสลับซับซ้อน ทะเลสาบแห่งนี้ยังมีลักษณะตรงเกาะกลางน้ำที่มีรูปคล้ายดาวสองดวง โดยฝั่ง
ตะวันออกดูคล้ายดวงอาทิตย์ ส่วนฝั่งตะวันตกดูคล้ายดวงจันทร์เสี้ยว จึงเป็นที่มาของชื่อทะเลสาบสุริยันจันทรา
อุทยานแห่งชาติทาโรโกะ
อุทยานแห่งชาติทาโรโกะ หรือไท่หลูเก๋อ มีพื้นที่ประมาณ 230,000 กว่าไร่ ครอบคลุม 3 เมืองได้แก่ ฮวาเหลียน
ไถจงและหนาวโถว มีลักษณะทางภูมิศาศาสตร์และทรัพยากรธรรมชาติเป็นเอกลักษณ์โดดเด่น ยอดเขาสูงสลับ
ซับซ้อนหลดหลี่นไปตามช่องแคบระหว่างแม่น้ำสีเขียวมรกต หินอ่อนหลายสีหลากลวดลาย
จุดชมวิวริมหน้าผาฝั่งมหาสุมทรแปซิฟิกและแม่น้ำลี่อู้ (Liwu) ไหลเป็นทางยาวกว่า 58.4 กิโลเมตร ซึ่งส่วนที่สำคัญสร้างทัศนียภาพเกาะแก่ง
ลวดลายหินอ่อน แหละหินรูปลักษณ์แปลกตาขนาดต่างๆ และมีความสำคัญกับชนพื้นเมืองที่อาศัยอยู่แถบนี้ก่อนถนนทางหลวงจะตัดผ่าน
หมู่บ้านจิ่วเฟิ่น Jiufen
หมู่บ้านเก่าแก่ จิ่วเฟิ่น หมู่บ้านเล็กๆที่ตั่งอยู่บนภูเขา มองไปข้างหน้าเห็นทะเลอันกว้างใหญ่ ด้านหลังเป็นภูเขาจีหลง
แต่เดิมผู้บ้านแห่งนี้มีเพียงแค่ 9 ครัวเรือน เป็นที่มาของชื่อ จิ่วเฟิ่น (จิ่ว แปลว่า เก้า เฟิ่น แปลว่า ส่วน) ต่อมามีการค้นพบ
แร่ทองคำทำให้หมู่บ้านแห่งนี้เจริญรุ่งเรืองขึ้นและในยุคอาณานิคมญี่ปุ่นก็ได้เข้าทำฐานขุดเหมืองแร่ทองคำที่หมู่บ้านแห่งนี้
หลังจากที่ญี่ปุ่นออกไปแล้วหมู่บ้านแห่งนี้ก็เงียบลงอีกครั้ง จนมีหนังดังอนิเมชั่นเรื่อง Spirited Away ของค่าย Studio Ghibi
จากญี่ปุ่นมาถ่ายทำที่แห่งนี้จึงทำให้หมู่บ้านแห่งนี้ดังขึ้นมาอีกครั้ง
ความสวยงามของหมู่บ้านแห่งนี้คืออาคารหมู่บ้านเก่าๆ ที่เต็มไปด้วยร้านน้ำชา ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกมากมาย
เรียงรายตามสองข้างทาง และอาหารอร่อยๆต่างๆที่ทำให้นักท่องเที่ยวมาที่นี้จะต้องแวะชิมกันหลายร้านเลยทีเดียว
ตลาดฝงเจี่ยไนท์มาร์เก็ต
ตลาดฝงเจี่ยไนท์มาร์เก็ต ตั่งอยู่หลังมหาวิทยาลัยฝ่งเจี่ย ซึ่งตลาดแห่งนี้เป็นที่รวมตัวของวัยรุ่นนักศึกษาเลยก็ว่าได้
ตลาดมีร้านค้าขายสินค้าแฟชั่น รองเท้า เสื้อผ้า เครื่องสำอาง ร้านอาหารต่างๆ และที่พลาดไม่ได้เมื่อมาไต้หวันก็คือของกินนั้นเอง
ตลาดฝ่งเจี่ยก็ถือว่ามีร้านดังๆอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว เช่น ไก่ทอด i973,สเต็กเนื้อ,ไก่ทอด Devil,ชานมไข่มุข หรือจะเป็นหลู่เว้ย อาหารประจำชาติของไต้หวัน
ตลาดซื่อหลินไนท์มาร์เก็ต
ตลาดซื่อหลิน ตลาดกลางคืนของไต้หวันตลาดที่นี้ถือว่าดังมากในไต้หวัน ไฮทไลท์ของตลาดแห่งนี้ก็คือของกินขึ้นชื่อต่างๆ
ของไต้หวัน ถ้ามาที่นี้แหละบอกเลยว่าต้องทำให้ท้องว่างเข้าไว้นะมีของให้กินเพียบ ของกินที่แนะนำเมื่อมาตลาดที่นี้
เช่นไก่ทอด Hot Star,เต้าหู้เหม็น,ชานมไข่มุข,บะหมี่อาจง,เจลลี่กลิ่นมะนาว
เพราะเรารู้จริงเรื่องไต้หวันคุณควรไปกับเรา
สนใจเที่ยว ไต้หวัน ติดต่อเราได้ที่นี่…
Line : @tourddtooktook
โทร: 02-010-8840
สายด่วน: 091-739-6939 พี่หวิน // สายด่วน: 090-894-3331
เว็บไซต์: https://www.we-rworldtour.com/
Facebook: https://www.facebook.com/werworldtour/