🌻 ไปล่าแสงเหนือกันมั๊ย… สักครั้งในชีวิต

ไป ล่าแสงเหนือ กันมั๊ย… สักครั้งในชีวิต
ครั้งหนึ่งในชีวิตคนเรา ควรไปรู้จักและสัมผัสกับแสงเหนือด้วยตาของตัวเอง แสงเหนือ หรือ ออโรร่า (Aurora) เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ซึ่งจะมีแสงเรืองอยู่บนท้องฟ้ามีทั้ง “แสงเหนือ” และ “แสงใต้”
ขึ้นอยู่กับแหล่งที่เกิดปรากฏการณ์ นักวิทยาศาสตร์ได้อธิบายไว้ว่าแสงเหนือ แสงใต้ เกิดจากการที่ก๊าซในชั้นบรรยากาศโลก
ชนเข้ากับอนุภาคไฟฟ้าจากดวงอาทิตย์ ทำให้เกิดการระเบิดเป็นลำแสงสีต่างๆ มีทั้งสีเขียว สีน้ำเงิน สีม่วง สีชมพู สีเหลือง หรือสีแดงก็มี
ขึ้นอยู่กับว่าแสงนั้นเกิดขึ้นในชั้นบรรยากาศไหน และเกิดจากก๊าซอะไรนั่นเอง

“แสงเหนือ” เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทุกเพศ ทุกวัย เป็น Destination ที่หลายคนอยากไปเยือน สัมผัส และเห็นด้วยตาของตัวเอง
We R World Tour ได้รวบรวมพิกัด “10 ประเทศ” ให้ทุกท่านที่ใฝ่ฝันไป “ล่าแสงเหนือ” ไม่ต้องนั่งฟังแค่คำบอกเล่า
หรือชมความสวยงามแค่เพียงในรูปภาพอีกต่อไป…

1.ไอซ์แลนด์ (ICELAND)

❄️ประเทศไอซ์แลนด์จะแตกต่างจากประเทศอื่นๆ เนื่องจากที่ประเทศไอซ์แลนด์สามารถมองเห็นแสงเหนือได้แทบทุกที่ที่อยู่ภายนอกเมืองหลวงเลยทีเดียว
การจะได้เห็นแสงออโรร่า แบบเต็มตาสวยงามในไอซ์แลนด์นั้น ต้องมีความอดทนและโชคช่วย และต้องมีปัจจัยดังนี้
ต้องเป็นคืนที่มืดสนิทมากที่สุด มีแสงสว่างจากไฟฟ้าน้อยที่สุด ควรมีเมฆน้อยที่สุด
ถ้าหากอยากเห็นแสงเหนือแบบชัดๆ ต้องเดินทางไปที่ฟยอร์ดทางตะวันตก (Westfjord) หรือทางตอนเหนือ
ของไอซ์แลนด์ (North Iceland) ซึ่งบริเวณแถบนั้นจะมีช่วงกลางคืนที่ยาวนานกว่าจึงทำให้มีโอกาสได้เห็นออโรรามากกว่า

⏳ช่วงเวลาที่ We R แนะนำ : ช่วงเดือนกันยายน – เดือนเมษายน

2.สวีเดน (SWEDEN)

❄️ในสวีเดน “Torneträsk Lake” เป็นจุดชม “แสงเหนือ” ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่ง และยังมีหมู่บ้านอีกแห่งหนึ่งชื่อว่า Abisko ทางตอนเหนือของเส้นอาร์กติกเซอร์เคิล
เป็นจุดที่นักล่าแสงเหนือควรไปเยือน เนื่องจากท้องฟ้าปลอดโปร่ง ไม่ค่อยมีเมฆ เหมาะแก่การชมแสงเหนือสุดๆ

⏳ช่วงเวลาที่ We R แนะนำ : เดือนกันยายน-เดือนมีนาคม

3.รัสเซีย (Russia)

❄️ปกติปรากฎการณ์แสงเหนือจะเกิดขึ้นในประเทศตามแถบขั้วโลก ซึ่งมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง
อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับนักล่าแสงเหนือคือประเทศรัสเซีย สามารถชมปรากฎการณ์แสงเหนือได้เช่นกัน ราคาเอื้อมถึง
แถมไม่ต้องขอวีซ่าอีกด้วย พิกัดชมแสงเหนือในประเทศรัสเซีย เมืองเมอร์มังส์ก หรือ มูรมานสก์ (Murmansk)

⏳ช่วงเวลาที่ We R แนะนำ : เดือนกุมภาพันธ์

4.ฟินแลนด์ (FINLAND)

❄️ถ้าต้องการเห็นแสงเหนือแบบเต็มๆ ตา ต้องไปที่ ลูสโต (Luosto) ทางตอนเหนือของฟินแลนด์
แต่ถ้าต้องการเห็นแสงเหนือพร้อมกับดาวระยิบระยับ สวยงาม ต้องไปที่ “เมืองเนลลิม” ควรเดินทางไปช่วงฤดูหนาว
เนื่องจากเวลากลางคืนจะยาวนานกว่าปกติ จะสามารถเห็นแสงเหนือได้ดีนั่นเองจ้า

⏳ช่วงเวลาที่ We R แนะนำ : ปลายเดือนตุลาคม – ต้นเดือนมีนาคม

5.รัฐอะแลสกา สหรัฐอเมริกา (ALASKA)

❄️ที่เขต “The Zone” เป็นพื้นที่ที่อยู่นอกเมือง การันตีว่าเห็นแสงเหนือแน่นอนไม่มีผิดหวัง

⏳ช่วงเวลาที่ We R แนะนำ : เดือนกันยายนถึงเดือนเมษายน

6.แคนนาดา (CANADA)

❄️แคนาดา ถือเป็นแถวหน้าสำหรับการชมปรากฏการณ์แสงเหนือ และสามารถมองเห็นแสงเหนือได้ไกลถึงชายแดนฝั่งใต้ของสหรัฐอเมริกาเลยด้วย

⏳ช่วงเวลาที่ We R แนะนำ : เดือนมกราคมถึงกลางเดือนมีนาคม

7.นอร์เวย์ (NORWAY)

❄️ทางตอนเหนือของนอร์เวย์เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการชมแสงเหนือ และยังสามารถนั่งเรือไปรอบๆ ชายฝั่ง
ด้วยเรือ “Hurtigruten” ล่องเรือพร้อมชมแสงเหนือเพิ่มความฟินไปอีก 10 เลเวล

⏳ช่วงเวลาที่ We R แนะนำ : เดือนกันยายนถึงเดือนมีนาคม หรือในคืนที่ท้องฟ้าโปร่ง

8.กรีนแลนด์ (GREENLAND)

❄️ไม่ว่าจะไปเที่ยวส่วนไหนของประเทศกรีนแลนด์ ก็สามารถมองเห็นแสงเหนือแบบเต็มๆ ตา
ได้จากทั่วประเทศนอกจากจะได้เห็นความสวยงามของแสงเหนือแล้ว ยังฟินกับวิวทิวทัศน์ของประเทศนี้อีกด้วย

⏳ช่วงเวลาที่ We R แนะนำ : เดือนมกราคมถึงเดือนกุมภาพันธ์